29/07/2023

EP. 1 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

ตอนที่ 1 ของ ซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? เราจะนำเสนอ 3 เทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนคือ ประกอบไปด้วย การสกรีนปริ้น (Screen Printing) การทำซับลิเมชั่น (Sublimation) และ offset และเทคนิคสุดท้าย ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing)

และสำหรับ EP. 1 นี้เราจะมาเริ่มกันที่ เทคนิคที่เราชำนาญที่สุดคือ เทคนิคซับลิเมชั่น นั่นเอง ! และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบซับลิเมชั่น ประโยชน์ของเทคนิคนี้ เพื่อที่คุณจะได้พิจารณาว่าเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณหรือไม่ มีวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เช่น กระดาษซับลิเมชั่น หมึกซับลิเมชั่น เป็นต้น ขาดไม่ได้คือข้อดี- ข้อเสียของเทคนิคซับลิเมชั่น เพื่อที่คุณจะได้เปรียบเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ เพื่อประเมินความคุ้มทุน เอาล่ะ.. จะช้าอยู่ทำไม !

เทคนิคซับลิเมชั่น
Image by vecstock on Freepik

เริ่มทำความรู้จักกับวิธีการระเหิด (Sublimation Method) เป็นอย่างแรก

วิธีการซับลิเมชั่น (Sublimation) หรือที่เรียกกันว่า Sublimation printing เป็นวิธีการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ไม่มีขี้ผึ้ง ด้วยการใช้ความร้อนและความดันเพื่อให้หมึกหรือสารสีแปลงเป็นก๊าซโดยตรง ทำให้สามารถผสมผสานกับพื้นผิวของวัตถุได้อย่างดี และทำให้ภาพหรือลายที่ถูกพิมพ์อยู่เกาะอยู่ติดอยู่กับวัตถุนั้นๆ โดยที่ไม่ทำให้สีหรือลายตกค้างที่ผิวของวัตถุ

การทำ Sublimation (Methodology):

  1. การเตรียมวัตถุ: ในขั้นตอนแรกคือการเตรียมวัตถุที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถเป็นผ้า สิ่งทอ แก้ว กระดาษ หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับการรับสีแบบ Sublimation ให้พร้อมสำหรับกระบวนการต่อไป
  2. การออกแบบภาพ: ในขั้นตอนถัดมาคือการออกแบบภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันที่สามารถสร้างลายละเอียดได้ตามความต้องการ
  3. การพิมพ์ภาพ: เมื่อมีภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ก็นำมาใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation ที่มาพร้อมกับหมึก Sublimation หรือสี Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ตามความต้องการ
  4. กระบวนการ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนและความดันจะทำให้หมึก Sublimation หรือสีแปลงเป็นก๊าซ และเจือจางเข้ากับเนื้อผ้าหรือวัตถุที่เตรียมไว้ โดยการเกาะกลบเนื้อผ้าหรือวัตถุ นำภาพหรือลายเข้าไปก่อน
  5. การเย็บและเตรียมผลิตภัณฑ์: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะต้องเย็บและเตรียมให้พร้อมใช้งาน เช่น ผ้าอาบน้ำที่พิมพ์ลาย ก็จะต้องเย็บขอบให้เรียบร้อย

วิธีการ Sublimation (How-to):

  1. เลือกวัตถุ: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลาย ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ Sublimation ได้ เช่น ผ้าอาบน้ำ แก้ว แผ่นโลหะ หรือซับใน ที่มีโครงสร้างพอดีกับการส่งออกความร้อนและกดอย่างเหมาะสม
  2. ออกแบบภาพ: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ควรคำนึงถึงขนาดและความละเอียดของวัตถุที่จะพิมพ์ เพื่อให้ภาพที่ได้มีความคมชัด
  3. พิมพ์ภาพ: นำภาพที่ออกแบบไว้ไปใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ให้เหมาะสม โดยควรทดสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ Sublimation ได้รับความเรียบร้อยและใช้หมึก Sublimation หรือสี Sublimation ที่เหมาะสมสำหรับวัตถุที่คุณต้องการพิมพ์ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบการตั้งค่าอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลา และความดันเพื่อให้ความสวยงามของภาพเป็นอย่างดี
  4. การทำ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนที่สร้างขึ้นจะทำให้หมึกหรือสี Sublimation แปลงเป็นก๊าซและซึมลงไปในเนื้อผ้าหรือวัตถุ ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น การเพิ่มความดันจะช่วยให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและเสถียรภาพ
  5. ผลิตภัณฑ์ที่ได้: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุ อย่างเช่น ผ้าอาบน้ำที่มีลายสวยงาม แก้วที่มีภาพสีสัน หรือกระดาษลายเก๋ๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีความสวยงามและทนทาน

ผลิดภัณฑ์ที่ได้จากเทคนิคนี้

การทำ Sublimation ส่วนใหญ่พบได้กับธุรกิจสกรีนเสื้อ แต่จริง ๆ สามารถใช้กับวัตถุหลากหลายชนิดที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ดังนี้:

  1. ผ้าอาบน้ำ: ผ้าอาบน้ำที่มีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ และโพลีเอสเตอร์พันธุ์ธรรมชนิดใดก็ได้ (polyester) เป็นวัตถุที่นิยมใช้ในการทำ Sublimation printing เนื่องจากสามารถรับสี Sublimation และให้ความคมชัดของภาพได้ดี
  2. เสื้อผ้าและเนื้อผ้าสำเร็จรูป: เสื้อผ้าและเนื้อผ้าที่ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าส่วนผสมที่มีความเหมาะสมกับ Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  3. แก้ว: แก้วที่มีผิวขาวและเนื้อที่ทำจากเซรามิกหรือแก้วที่เหมาะสำหรับ Sublimation สามารถใช้พิมพ์ลายหรือภาพบนพื้นผิวได้
  4. แผ่นโลหะ: แผ่นโลหะที่ไม่มีผิวขัดหรือเคลือบทางเคมีสามารถนำมาใช้สำหรับ Sublimation printing และพิมพ์ลายหรือภาพลงบนพื้นผิวได้
  5. กระดาษ: กระดาษที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับรับสี Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  6. โลหะของที่อื่นๆ: ที่แสดงอยู่ข้างต้นเป็นตัวอย่างของวัตถุที่สามารถใช้ Sublimation ได้ แต่ยังมีวัตถุอื่นๆ ที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยวิธีนี้ เช่น กระเบื้องโลหะ และอื่นๆ

ต้องเตรียมวัสดุอะไรบ้างก่อนปฏิบัติการ

ก่อนที่คุณจะดำเนินการ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ในกระบวนการซับลิเมชั่น นั้นจำเป็นต้องเตรียมวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้:

  1. วัตถุที่จะพิมพ์: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลายหรือภาพ ที่มีผิวที่เหมาะสมกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ผ้าอาบน้ำ, เสื้อผ้า, แก้ว, แผ่นโลหะ, กระดาษ, หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่ไม่มีขี้ผึ้งและสามารถรับสีซับลิเมชั่น ได้ดี
  2. ลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์ลงบนวัตถุ เตรียมไฟล์ลายหรือภาพให้มีขนาดและความละเอียดที่เหมาะสมกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์
  3. เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น: ใช้เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น ที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงามและความคมชัดสูง
  4. หมึกซับลิเมชั่น: ใช้หมึกซับลิเมชั่น ที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์และวัตถุที่จะพิมพ์ หมึกซับลิเมชั่น จะต้องมีคุณภาพที่ดีและสามารถซึมลงไปในวัตถุได้
  5. Heat Press Machine (เครื่องอบ): หลังจากที่พิมพ์ลายหรือภาพลงบนกระดาษซับลิเมชั่น แล้ว จำเป็นต้องใช้ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น ซึ่งอยู่บนกระดาษเข้าไปในวัตถุ โดยให้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม อย่าลืมเอากระดาษรองรีดรองก่อนเสมอ
  6. กระดาษซับลิเมชั่น: ใช้กระดาษซับลิเมชั่น เพื่อพิมพ์ลายหรือภาพจากเครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น และนำไปใช้กับ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น เข้ากับวัตถุ
  7. กรรไกรและสกรูไล่: ใช้กรรไกรในกระบวนการตัดกระดาษซับลิเมชั่น เพื่อให้ตรงกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์ และใช้สกรูไล่ในกระบวนการควบคุมความร้อนและความดันของ Heat Press Machine
  8. ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือ: ใช้ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือเพื่อทำความสะอาดผิวของวัตถุ ก่อนที่จะใส่กระดาษซับลิเมชั่น และนำเข้า Heat Press Machine
  9. อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ: ควรมีอุปกรณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของ Heat Press Machine เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการซับลิเมชั่น
  10. ตัวอย่าง (Test Sample): ควรมีวัตถุทดสอบเพื่อทดลองพิมพ์ลายหรือภาพแรกครั้ง โดยใช้กระดาษซับลิเมชั่น เป็นตัวอย่าง จะช่วยให้คุณตรวจสอบความถูกต้องของลายหรือภาพก่อนที่จะทำการพิมพ์บนวัตถุจริง
  11. เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลา (Thermometer and Timer): ควรใช้เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลาเพื่อตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและเวลาในกระบวนการ Sublimation ให้ตรงตามข้อมูลที่แนะนำของผู้ผลิตหรือสูตรทดสอบของคุณ
  12. แผ่นห่อหุ้ม (Teflon Sheet): ใช้แผ่นห่อหุ้ม (Teflon sheet) เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกซับลิเมชั่น ซึมเข้าไปยับยั้งที่ผิวเครื่องพิมพ์และ Heat Press Machine
  13. บรรจุภัณฑ์: หลังจากที่กระบวนการซับลิเมชั่น เสร็จสิ้น ควรมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมในการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายหรือการลอกค้าง
  14. แห้งในที่มีระบบระบายอากาศ (Well-ventilated Drying Area): หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการพิมพ์และหมึกหรือสี Sublimation ได้ถูกกดเข้ากับวัตถุ ควรมีพื้นที่ในการแห้งที่มีระบบระบายอากาศดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งและมีกลิ่นที่ไม่ค้างคา
  15. ความระมัดระวังและความปลอดภัย: ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการความระมัดระวังและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ใช้แว่นตาป้องกันแสง, สวมเสื้อผ้าป้องกันความร้อน, และใช้เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิอย่างถูกต้อง
หมึกซับลิเมชั่น
Image by Freepik

ข้อดีและข้อเสียของวิธีการ Sublimation (Sublimation Method)

ข้อดี:

  1. คุณภาพระดับสูง: กระบวนการ Sublimation สามารถให้คุณภาพภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดสูง ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุด้วยความคมชัดและสวยงามมากที่สุด
  2. ระบบสีที่นุ่มนวล: หมึกหรือสี Sublimation ที่ใช้ในกระบวนการนี้จะละลายและซึมลงในเนื้อผ้าหรือวัตถุอย่างเนียนนวล ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของลักษณะเนื้อผ้า หรือวัตถุและไม่เกิดความหยาบคายหรือขี้ผึ้ง
  3. ลายสีทนทาน: ภาพหรือลายที่พิมพ์ด้วยวิธี Sublimation จะทนทานต่อการล้างของน้ำและแสงแดด ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้งหรือการใช้งานที่ต้องการความคงทนในระยะยาว
  4. สีที่ชัดเจนและสดใส: การพิมพ์ด้วย Sublimation ทำให้สีที่ได้มีความสว่างและสดใส ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์ดูน่าสนใจและเป็นมิตรต่อตา
  5. ความหลากหลาย: Sublimation printing สามารถพิมพ์ภาพหรือลายที่มีความซับซ้อนและรายละเอียดสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ด้วยวิธีนี้

ข้อเสีย:

  1. ค่าใช้จ่ายสูง: กระบวนการ Sublimation มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่องพิมพ์ Sublimation, หมึกหรือสี Sublimation, และวัตถุที่พิมพ์ ทำให้การดำเนินการนี้มีความให้เสียเปรียบกว่าวิธีการพิมพ์อื่นๆ
  2. จำกัดวัตถุที่ใช้พิมพ์: การทำ Sublimation จำกัดต้องใช้วัตถุที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ซึ่งอาจจำกัดความหลากหลายในการเลือกวัตถุที่พิมพ์
  3. ความซับซ้อนในกระบวนการ: กระบวนการ Sublimation มีขั้นตอนในการเตรียมวัตถุและควบคุมความร้อนและความดันในการพิมพ์ ซึ่งอาจต้องใช้ความชำนาญและความรอบคอบในการดำเนินการ
  4. จำกัดในการพิมพ์สี: หมึกหรือสี Sublimation มีความจำกัดในสีบางสีที่อาจไม่สามารถทำให้ได้เหมือนกับสีที่แท้จริง ซึ่งอาจมีผลต่อความสวยงามของภาพหรือลายที่พิมพ์
  5. เวลาในการดำเนินการ: การพิมพ์ด้วย Sublimation อาจใช้เวลานานกว่าวิธีการอื่นๆ เนื่องจากต้องรอให้หมึกหรือสี Sublimation ซึมลงไปในวัตถุในระหว่างกระบวนการ

Key Takeaways

เนื่องจากกระบวนการ Sublimation เป็นกระบวนการที่ใช้ความร้อนและความดัน หากคุณเลือกวิธีนี้ใน ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ คุณจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อป้องกันอาจเกิดอันตรายจากความร้อนที่เกิดขึ้น และควรให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้เครื่องพิมพ์และการจัดเก็บสี Sublimation เสมอ

กระบวนการ Sublimation เป็นวิธีการที่น่าสนุกและน่าสนใจในการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าและวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้เองหรือเป็นของขวัญ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าสวยงามและไม่เหมือนใคร ถ้าคุณต้องการลองทำ Sublimation กับวัตถุโดยตั้งใจในการศึกษาและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจมากมาย!

Credit Image : Image by vecstock on Freepik

Some of article came by : https://medium.com/@clashgraphicsga/benefits-screen-print-sublimation-offset-digital-d4ea5e57c956

สาระทั่วไป
26/03/2023

Football Culture x Sublimation : ปลุกกระแส “เสื้อบอลคลาสสิค”

ในช่วงปีที่ผ่านมากระแสของ Jersey Culture การนำเอาเสื้อแข่งของทีมกีฬามาแต่งตัวเข้ากับชุดแฟชั่นนั้นเป็นที่นิยมอย่างมาก โดยเฉพาะรูปแบบคลาสสิค การหาเสื้อทีมที่ได้รับความนิยม ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของดีไซน์ที่สวยงาม รวมถึงสตอรี่ของที่เสื้อตัวนั้น ๆ มี แต่ส่วนใหญ่หรือเราสามารถพูดได้ว่าทั้งหมดนั้นเป็นการผลิตแบบสมัยก่อน ..ก็แน่ล่ะ มัน เสื้อบอลคลาสสิค หนิ! ซึ่งเป็นแบบโลโก้ปัก ส่วนพวกลายสกรีนก็อาจมีแบบเฟล็กซ์ร่วมด้วยหากปีใหม่ขึ้นมาหน่อย (ปี 2008 ขึ้นไป)

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://www.goal.com/en-gb/lists/best-retro-modern-football-shirts-summer/bltee9eb2b48987cda5

ยิ่งช่วงปลายปี 2022 จนถึงต้นปี 2023 นี้ มีหลายแบรนด์เลยที่ถูกกระแสคลาสสิคนี้ปลุกให้ร่วมบุกตลาด “เสื้อบอล” ที่คราวนี้คำถึงเรื่องแฟชั่นมากขึ้น เน้นไปที่การมิกซ์แอนด์แมตช์นอกสนามมากขึ้น  ส่วนเรื่องการผลิตก็ไม่ได้จำกัดอยู่ที่รูปแบบเก่าแล้วแม้จะอิงเรื่องดีไซน์ที่ย้อนยุคและกลิ่นอายของความคลาสสิคก็ตาม มีทั้งการสกรีนเฟล็กซ์แบบสมัยใหม่ในส่วนของโลโก้ จุดสปอนเซอร์ต่าง ๆ รวมถึงการผสานเทคนิคซับลิเมชั่นที่เป็นแบบพิมพ์ลายทั้งตัวก็ได้รับความนิยมเช่นกัน (เทคนิคนี้จำเป็นต้องใช้กระดาษซับลิเมชั่น กระดาษรองรีด และหมึกซับลิเมชั่นที่มีคุณภาพสูง) และวันนี้เราจะพาไปยลเสื้อสวย ๆ ที่รับรองได้เลยว่าใส่เตะบอลก็เท่ ใส่ไปเที่ยวก็เก๋ เชิญไปติดตามกันเลย!

เสื้อบอล x แฟชั่น : ARI MAINSTAND RETRO JERSEY 2022

แบรนด์ Ari (อาริ) เป็นแบรนด์สัญชาติไทยที่เดินหน้าสร้างตัวตนให้เป็นดั่ง “สวรรค์ของคนรักฟุตบอล” รวมรวบทุกสิ่งอย่างที่เกี่ยวข้องกับวงการลูกหนังให้ชาวสยามได้เลือกสรรค์ ส่วนด้านของ MAINSTAND นาทีนี้ถือเป็นหนึ่งในสื่อที่รวบรวม “อินฟลูเอนเซอร์” ด้านฟุตบอลเอาไว้ไม่น้อยกว่าสื่อกีฬาไหน ๆ เรียกว่าเป็นการ Collab ที่น่าจับตามอง ก่อนจะออกมาเป็นเสื้อตัวด้านล่างให้ทุกคนได้จับจองกันนี้เอง

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://today.line.me/th/v2/article/nXY96yM

โดยตัวลวดลายของเสื้อนั้นได้แรงบันดาลใจจากยุค 90s และหากสังเกตดี ๆ แพทเทิร์นบนลายเสื้อก็คือตัว “M” ซึ่งก็หมายถึง Mainstand บนตัวเสื้อจะมีแค่โลโก้ของ อาริ กับ เมนสแตนด์ เท่านั้นที่เป็นแบบแปะลงบนพื้นผิว ส่วนลวดลายกราฟิกของเสื้อเป็นงานพิมพ์ลายแบบซับลิเมชั่น นอกจากจะมีความโดดเด่นแล้ว เทคนิคการพิมพ์แบบนี้นั้นทำให้ผ้านั้นไม่หนัก ต่างจากเสื้อบอลยุค 90s จริง ๆ ที่จะเป็นงานปักที่หนักอึ้ง รวมถึงตัวผ้าที่บอกเลยว่าถ้าใส่หน้าร้อนเมืองไทยนั้นมีตัวเปียกแน่นอน แถมคัตติ้งของเสื้อตัวนี้ได้ตอกย้ำความคลาสสิคเข้าไปอีกด้วย “คอปก” ผสานกับลวดลายแบบตัดที่เรียกว่า Pin Stripes หากใครเกิดทัน หรือเสพย์เสื้อบอลแนวนี้จะทราบดีว่านี่เป็นลายที่ได้รับความนิยมอย่างมากในสมัยนั้น

เสื้อบอล x แฟชั่น : Ari x Indigoskins “Become a Legend”

เป็นการ Collaboration ของสองวงการ อาริ ตัวแทนด้านแฟชั่นกีฬาเจ้าเก่า คราวนี้รวมพลังกับแบรนด์ยีนส์สุดพรีเมียมสัญชาติไทย อย่าง Indigoskins ได้เปิดตัวคอลเลคชั่นสุดพิเศษ นำเอาเอกลักษณ์ของเหล่าทีมฟุตบอลในความทรงจำ รวมถึงแรงบันดาลใจของเสื้อบอลระดับตำนาน ผสมผสานกับลายไทยอันเป็นซิกเนเจอร์ของแบรนด์ อินดิโก้สกินส์ ดีไซน์โดย อาริ ที่มีความเข้าใจกับความเป็นโมเดิร์นฟุตบอลได้เป็นอย่างดี

เสื้อบอลคลาสสิค
Credit by : https://www.mainstand.co.th/th/news/8/article/8648

โดยในคอลเลคชั่นนี้มีถึง 5 ลายด้วยกัน ชูโรงด้วยชุดแข่งแบบเต็มตัว Indigoskins x Ari Performance Jersey ตัวชูโรงที่ใช้ “ลายบ่อบัว” สัญลักษณ์ของแบรนด์ และ “ลายรดน้ำ” งานประณีตศิลป์ของไทย ตามด้วยอีก 4 ชุดที่เป็นแบบย้อนยุค บ่อบัวคราม, สามกษัตริย์, สุวรรณสมุทร และ กระหนกเปลว ซึ่งทุกชุดนั้นจะเป็นเทคนิคเดียวกัน คือ เสื้อพิมพ์ลายทั้งตัว อาจสอดแทรกเทคนิคกระบวนการพิเศษของ อาริ ในเรื่องของตัวโลโก้และสปอนเซอร์

เสื้อบอลคลาสสิค ไม่จำเป็นต้องเก่าอีกต่อไป?

เลือกปิดท้ายกันแบบนี้ก็ต้องขออภัยกลุ่มคนที่รักเสื้อวินเทจก่อนเลย ซึ่งเรานั้นทราบดีว่ามูลค่าของเสื้อวินเทจฟุตบอลจริง ๆ มีราคาที่วัดกันตามสตอรี่ ดีไซน์ และคุณค่าทางจิตใจ แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าทางเลือกของกลุ่มคนที่เน้นในเรื่องของดีไซน์จริง ๆ อยากใส่เสื้อบอลแนวเรโทรแบบใหม่ก็มีไม่น้อย พิสูจน์ได้ตรงที่แบรนด์ยักษ์ใหญ่อย่าง ไนกี้ และ อาดิดาส เลือกที่จะผลิตชุดแข่งแบบเรโทรให้แฟนบอลได้เก็บสะสมกันในช่วงที่ผ่านมา แถมยังขายดีเป็นเทน้ำเทท่า ออกมาเท่าไหร่ก็ขายเหมือนแจกฟรี

ยิ่งหากต้องการสวมด้วยความเบาสบาย สำหรับแบรนด์หน้าใหม่ หรือต้องการเริ่มต้นในวงการนี้ การเลือกผลิตแบบเสื้อพิมพ์ด้วยงานซับลิเมชั่นนั้นเป็นตลาดที่น่าสนใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตหรือผู้บริโภค สุดท้ายก็อยู่ที่ความชอบใครความชอบมัน แต่ถ้าหากคุณรักที่จะใส่แบบสวยใสไร้ตำหนิ งานผลิตแบบใหม่ที่เรานำเสนอวันนี้ตอบโจทย์คุณแน่นอน!

Credit : Cover Image by https://www.nike.com/in/football/jersey-culture

สาระทั่วไป
15/03/2023

เกาะกระแสเทรนด์ Sustainability งาน Sublimation ก็ Eco Friendly ได้

จั่วหัวกันมาแบบนี้ อาจจะฟังดูยกยอปอปั้นงานซับลิเมชั่นเกินไปหน่อย แต่ที่เราจะนำมาแชร์กันผ่านเนื้อหาวันนี้มันคือข้อเท็จจริง โดยเฉพาะหากคุณต้องการรักษาสิ่งแวดล้อม และดำเนินธุรกิจของคุณแบบ Eco Friendly ตามเทรนด์ Sustainability ที่ตอนนี้นั้นไม่ใช่แค่เทรนด์ และอาจจะกลายเป็นก้าวแรกของหลาย ๆ องค์กรที่ต้องการพัฒนาธุรกิจให้ยั่งยืน

นี่ถือเป็นจุดเริ่มต้นที่น่าสนใจ เพราะสิ่งแวดล้อมและชีวิตสำคัญไม่แพ้ผลกำไรทางธุรกิจ สตาร์ทถูกวิธีก็จะมีแต่อะไรดี ๆ เกิดขึ้นแน่นอน!

Eco Friendly
Image by rawpixel.com on Freepik

Eco Friendly ได้จริงหรือ ? Sublimation x Sustainability

ที่ผ่านมา กรรมวิธีการย้อมสีแบบเก่าที่นิยมกันมาเนิ่นนาน การผลิตสิ่งทอด้วยกระบวนการที่ว่านี้เป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมากอย่างไม่น่าเชื่อ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในตัวการหลักเลยก็ยังได้! เพราะสิ่งนี้ก่อให้เกิดมลพิษทางน้ำในอุตสาหกรรมทั่วโลกถึง 17-20% รวมถึงขยะมูลฝอยจำนวนมากที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อเครื่องย้อมผ้าเริ่มตกรุ่น แต่แม้เมื่อไม่กี่ปีมานี้จะมีการผลักดันให้อุตสาหกรรมสิ่งทอสะอาดขึ้นในบางกระบวนการ แต่ก็ยังมีอยู่มากที่ยังคงใช้วิธีแบบเดิม ซึ่งสวนกันกับแนวทางเทรนด์ Sustainability ในปัจจุบัน และดูไม่ Eco Friendly เท่าไหร่นัก..

แต่อย่างที่ทราบกันดี หากใครที่อยู่ในวงการนี้มาสักพักจะเห็นว่าเทคนิคซับลิเมชั่นเป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกเหนือจากการสกรีน การย้อมสี แบบเก่า โดยการพิมพ์แบบซับลิเมชั่น หรือ Sublimation Printing นั้นไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ใช้น้ำและไม่ใช่การย้อมหมึก แต่สามารถให้สีที่สดใสและมีความทนทานในทุกการออกแบบ ส่วนแนวทางที่จะนำพาเรามุ่งสู่เทรนด์ดังกล่าวด้วยสิ่งนี้ เรามีแนวทางของ Purnaa ซึ่งได้ประเมินผลกระทบของการพิมพ์แบบซับลิเมชั่นที่มีต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมแบ่งปันแนวทางที่พวกเขาได้สร้างระบบการพิมพ์ที่เป็นมิตรต่อธรรมชาติ ก้าวแรกของการเรียนรู้สู่ความยั่งยืน

Eco Friendly
Image by Freepik

Sublimation Printing สู่กระบวนการพิมพ์รักษ์โลกแบบครบวงจร ?

หากพูดถึงการสกรีน การย้อมสี แบบดั้งเดิม “น้ำ” เป็นส่วนสำคัญของกระบวนการย้อมสีสำหรับผลิตภัณฑ์สิ่งทอส่วนใหญ่ โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายโอนสีย้อมเข้าสู่สิ่งทอ ใช้น้ำปริมาณกว่า 200 ตัน ต่อการย้อมผ้าเพียง 1 ตัน นี่นับว่าเป็นปริมาณมาก แถมเรื่องการควบคุมน้ำที่ไม่ดีของเทศบาล อาจทำให้น้ำเหล่านี้กลับสู่ระบบนิเวศเดิมด้วยสารเคมีที่มีความเข้มข้นสูง ซึ่งอาจรวมถึงสารเคมีก่อมะเร็ง สีย้อม เกือล และโลหะหนัก สิ่งเหล่านี้ไม่เพียงแต่ทำร้ายสิ่งแวดล้อม แต่ยังสร้างมลภาวะต่อแหล่งน้ำดื่มที่จำเป็นอีกต่างหาก

กลับกัน กระบวนการของ Sublimation Printing ไม่ได้ใช้น้ำเป็นหลักในการปรินท์ เปลี่ยนเป็นใช้ความร้อนแทน ด้วยเทคนิคการพิมพ์โดยกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ที่เรียกว่า “การระเหิด” หมึกไปสู่กระดาษซับลิเมชั่น แม้จะยังมีหลายสิ่งอย่างที่ต้องปรับปรุง แต่คุณสามารถเลือกใช้แนวทางต่อไปนี้ยกระดับให้เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่นคุณควบคู่ไปกับการรักษ์โลกได้

Eco Friendly
Image by Freepik

แนวทางปฏิบัติสำหรับงานซับลิเมชั่นสู่เทรนด์ Sustainability

  1. สอบถามซัพพลายเออร์เกี่ยวกับเรื่องของหมึกซับลิเมชั่น เช็คว่ามีสารประกอบของบรรดาสารอินทรีย์ระเหยง่าย (VOCs : สารเคมีที่ก่อให้เกิดมลพิษทำลายโอโซน) หรือไม่ หากผู้ผลิตหมึกของคุณให้การรับรองของผลิตภัณฑ์ได้ ก็พร้อมดำเนินการได้เลย
  2. หลีกเลี่ยงหมึกพิมพ์ที่มีโลหะหนัก เช่น ตะกั่ว แคดเมียม โครเมียม หรือปรอท หากมีซัพพลายเออร์ที่เป็นสมาชิกของ The Ecological and Toxicological Association of Dyes and Organic Pigments Manufacturers (ETAD) มีใบรับรอง มั่นใจได้ว่าปลอดสารที่กล่าวไปข้างต้นชัวร์
  3. พิจารณาเกี่ยวกับวัสดุที่ใช้ ซึ่งการพิมพ์แบบระเหิดส่วนใหญ่จำเป็นต้องใช้ผ้าโพลีเอสเตอร์ เนื่องจากหมึกซับลิเมชั่นต้องจับตัวกันทางเคมีกับโพลีเมอร์ ซึ่งไม่มีอยู่ในเส้นใยธรรมชาติ และสิ่งนี้นั้นก่อให้เกิดไมโครพลาสติกในน้ำได้ ใช้เวลานานมากในการย่อยสลาย หากคุณสามารถดีลกับซัพพลายเออร์ให้ใช้โพลีเอสเตอร์รีไซเคิลได้จะช่วยอย่างมาก พร้อมทั้งมีวิธีตรวจสอบลูกค้าของคุณว่ามีวิธีรีไซเคิลผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปเมื่อหมดอายุการใช้งาน

ทั้ง 3 แนวทางที่ได้กล่าวมา ข้อสุดท้ายนี้อาจจะยากและจำกัดกระบวนการทางธุรกิจพอสมควร หากทำได้จะส่งผลที่ดีมากต่อสิ่งแวดล้อม นอกจากจะเป็นการเริ่มต้นสู่ความยั่งยืนขององค์กรคุณ นี่ยังช่วยให้บรรดาซัพพลายเชนที่เกี่ยวข้องนั้นเดินไปในทิศทางเดียวกัน ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดี ควรค่าต่อการเริ่มต้นอย่างมากเลยทีเดียว

Cover Image : Image by Freepik

ขอบคุณข้อมูลจาก :

https://www.purnaa.com/post/sustainability-in-sublimation-printing

https://www.auspirit.com/is-dye-sublimation-sustainable/

สาระทั่วไป
06/07/2022

ไอเทม WFH สายจิบ จานรองแก้วเซรามิก DIY ด้วยเทคนิคงานซับลิเมชั่น

แม้ว่าเรื่องโควิดนั้นจะเริ่มซาลงไปแล้ว ไม่ว่าจะด้วยมาตรการต่าง ๆ ของสาธารณสุข ตลอดจนเรื่องของวัคซีนที่คนส่วนใหญ่นั้นได้บูสต์กันไปแล้ว แต่ก็มีหลายธุรกิจที่รูปแบบการทำงานนั้นเอื้อต่อการทำงานแบบเวิร์คฟอร์มโฮมอยู่ ซึ่งจริง ๆ แล้วมันก็ไม่เกี่ยวหรอกว่าจะทำที่ไหน เพราะคนทำงานสมัยใหม่ต่างขับเคลื่อนด้วย “เครื่องดื่ม” จะเป็นกาแฟหรือชา ถ้าไม่ใช่แก้วรักษาอุณหภูมิ หลายคนมักเจอปัญหา “น้ำนอง” และไอเทมสำคัญที่เราจะมานำเสนอก็ไม่ได้วิเศษวิโสอะไร มันคือ “จานรองแก้วเซรามิก” นั่นเอง!

จานรองแก้ว x ซับลิเมชั่น สรรสร้างตามสไตล์คุณ

และเช่นเคย ที่นี่พร้อมแบ่งปันไอเดียเทคนิคงานซับลิเมชั่นให้คุณได้สรรสร้างงานศิลปะลงบนวัสดุต่าง ๆ ตามสไตล์คุณ โดยวันนี้เป็นคิวของ “จานรองแก้วเซรามิก” ซึ่งเราจะพาคุณเปลี่ยนจานรองแก้วที่แสนธรรมดา ให้ดูโดดเด่นขึ้นมาทันตาตามแบบที่คุณต้องการ แถมยังมีวิธีทำที่ง่ายมาก ๆ ส่วนจะต้องมีอุปกรณ์อะไรบ้าง รวมถึงขั้นตอนการทำ ติดตามผ่านเนื้อหาด้านล่างนี้ได้เลย

จานรองแก้ว

วิธีพิมพ์ลายซับลิเมชั่นบนจานรองแก้วเซรามิก

เราไปเจอเทคนิคที่น่าสนใจจากช่อง Lorrie Nunemaker บน Youtube ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้คร่ำหวอดในวงการซับลิเมชั่นอยู่แล้ว ในช่องของเขานั้นเต็มไปด้วยเทคนิคการสร้างงานประเภทนี้มากมายลงอุปกรณ์ต่าง ๆ และการพิมพ์ลายลงบนจานรองแก้วเซรามิกนั้นถือเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่น่าท้าทาย แต่ก็ทำออกมาได้สวยงามด้วยวิธีง่าย ๆ ตามแบบฉบับของเธอ และคุณก็สามารถทำตามมันได้ง่าย ๆ ด้วยอุปกรณ์และขั้นตอนที่เรานำมาฝากนี้

จานรองแก้ว

อุปกรณ์ที่จำเป็นต้องมี

  • เครื่องพิมพ์สำหรับงานซับลิเมชั่น
  • เครื่องรีดร้อน
  • กระดาษซับลิเมชั่น
  • กระดาษรองรีด
  • เทปกาวนำความร้อน
  • จานรองแก้วเซรามิก
  • รูปภาพที่เตรียมเอาไว้สำหรับพิมพ์ลาย

ขั้นตอนการพิมพ์ลายลงจานแก้วเซรามิก

  1. เตรียมรูปภาพที่จะทำการพิมพ์ลายลงบนจานรองแก้ว โดยออกแบบเป็นวงกลมใหญ่กว่าขนาดของจานรองแก้วเล็กน้อยแล้วปรินท์ใส่กระดาษซับลิเมชั่น
  2. ตัดกระดาษให้ตามทรงกลมที่คุณปรินท์ออก เว้นให้เหลือสีขาวด้านรอบ ๆ เอาไว้ด้วย
  3. นำกระดาษรูปภาพที่ตัดเอาไว้เรียบร้อยวางบนจานรองแก้วเซรามิก โดยเอาด้านที่มีรูปคว่ำลงบนวัสดุ
  4. ใช้เทปกาวนำความร้อนติดตามมุมให้รูปไม่หลุดจากวัสดุ (ในคลิปใช้ติด 4 มุม)
  5. นำกระดาษรองรีด ซึ่งหากเป็นการพิมพ์ลายซับลิเมชั่นลงบนวัสดุขนาดเล็กสามารถพับครึ่งได้ น่าจะครอบคลุมครบทั้งตัววัสดุแล้ว
  6. เอาวัสดุที่เตรียมไว้ในข้อ 3-4 ไปวางระหว่างกลางของกระดาษรองรีดที่พับครึ่งไว้ (จากคลิปจะเห็นได้ว่าสามารถทำได้พร้อมกันทีเดียวถึง 2 อัน)
  7. ตั้งค่าเครื่องรีดร้อนที่อุณหภูมิ 400 องศาฟาเรนไฮต์ กำหนดเวลา 60 วินาที แล้วกดทับลงไปจนครบตามที่กำหนด

เพียงแค่ 7 ขั้นตอนเท่านั้น เราก็จะได้จานรองแก้วเซรามิกเป็นภาพต่าง ๆ ตามที่คุณต้องการแล้ว ง่ายดายแบบสุด ๆ แถมใช้เพียงแค่อุปกรณ์ชุดเริ่มต้นก็สามารถสร้างสรรค์สิ่งนี้ได้แล้ว บางทีสิ่งนี้อาจเป็นธุรกิจให้คุณทำเงินในช่วงเวลาแบบนี้ได้เลย ลองดู!

(1024) How to Make Sublimation Ceramic Coasters – YouTube

ขอขอบคุณเทคนิคงานซับลิเมชั่นดี ๆ จาก Youtube ช่อง Lorrie Nunemaker

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น