16/03/2024

“สร้างอิทธิพลต่อการซื้อ” เทคนิคการจับคู่สี ออกแบบโลโก้ งานสกรีนเสื้อยืด

หากใครกำลังออกแบบโลโก้ คิดลายงานสกรีนเสื้ออยู่ รวมไปถึงทำป้ายร้าน ป้ายโฆษณา แบนเนอร์ต่าง ๆ และยังไม่แน่ใจว่าจะต้องเลือกสีอะไรดี สีที่ชอบ สีที่ใช้ สีที่ถูกโฉลก หรือมีการจับคู่สีอย่างไรดี เพื่อให้งานที่ดีไซน์ออกมาดูสอดคล้องกัน สวยงาม กลมกลืน เหมาะกับสินค้า.. คุณมาถูกที่แล้ว ! บทความนี้จะช่วยให้ทุกคนเข้าใจถึงการจับคู่สีมากขึ้น รวมถึงเข้าใจว่าทำไมการจับคู่สีให้เหมาะสมจึงมีอิทธิพลต่อการตัดสินใจในการซื้อหรือใช้บริการของลูกค้า อย่างที่คุณอาจจะคาดไม่ถึง เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาไปดู เทคนิคการจับคู่สี กันเลยดีกว่า

มาดูกัน เทคนิคการจับคู่สี มีหลักการอย่างไร

หากได้ยินคำว่า เทคนิคการจับคู่สี เชื่อว่าหลาย ๆ คนที่ทำงานเกี่ยวกับงานศิลปะและดีไซน์ คงสามารถนึกเทคนิคออกมาได้เยอะ แต่สำหรับในบทความนี้จะยกตัวอย่างเทคนิคที่เป็นกระแสนิยมที่คนส่วนใหญ่ได้ใช้กันทั่วโลก ที่จะต้องปูพื้นฐานให้แน่นก่อน จำเป็นจะต้องรู้จัก วงล้อสี (Color Wheel) เป็นแผนภาพหรือเครื่องมือที่ใช้ในการสามารถจัดเรียงและแสดงสีทั้งหมด โดยจะสามารถแบ่งได้เป็น 3 Layer คือ

  • สีหลัก (Primary color) หรือแม่สี สีแดง, สีเหลือง และสีน้ำเงิน
  • สีรอง (Secondary color) เป็นสีที่เกิดจากการผสมกันระหว่างสีหลัก สีส้ม, สีเขียว และสีม่วง
  • สีตติยภูมิ (Tertiary color) เป็นสีที่เกิดจากการผสมกันระหว่างสีหลักและสีรอง ส้มเหลือง, ส้มแดง, เขียวเหลือง, เขียวน้ำเงิน, ม่วงแดง และม่วงน้ำเงิน
เทคนิคการจับคู่สี
Image by master1305 on Freepik

นอกจากสีในแต่ละ Layrer ที่คุณได้รู้จักแล้วด้านบน จริง ๆ เพียงแค่นี้ก็ว้าวแล้วสำหรับการนำไอเดียไปออกแบบ แต่หากคุณได้รู้จักกับสิ่งที่เรียกว่า “โทนสี” อีกซักหน่อย จะทำให้คุณออกแบบงานได้ตรงกับคอนเซ็ปงานและเล่นกับความรู้สึกที่อยากจะสื่อผ่านงานออกแบบของคุณได้มากยิ่งขึ้น ! ซึ่ง โทนสี สามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภท ตามหลายคำจำกัดความ แต่ในบทความนี้จะขอยกโทนสีออกเป็น 2 ประเภท โดยแบ่งได้เป็นสีโทนเย็นและสีโทนร้อน ถ้าหากเราลากเส้นกึ่งกลางตัดตรงกลางระหว่างวงล้อสี จะสามารถแบ่งสีโทนร้อนและโทนเย็นออกจากกันได้ทันที 

  • สีโทนเย็น เป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกสงบ น่าค้นหา ความสันโดษ
  • สีโทนร้อน เป็นโทนสีที่ให้ความรู้สึกมีพลัง อบอุ่น โดดเด่น สะดุดตา

แค่สองโทนก็ทำให้คุณออกแบบงานในระดับพื้นฐานถึงระดับปานกลางแล้วแหละ เช่น ถ้าคุณมีร้านชาบูหมาล่า และคุณให้คอนเซ็ปสินค้าคือเผ็ดซ่าชาลิ้น ดังนั้น ถ้าคุณจะออกแบบลายเสื้อสกรีนของพนักงานร้าน คุณเลือกที่จะออกแบบไปใน โทนสีไหน ??? คุณรู้คำตอบอยู่แล้วแหละ ! เริ่มแบ่งเส้นตัดที่วงล้อสีได้เลย !!! และถ้าคุณจะใช้วิธีสกรีนลวดลายเสื้อผ่านเทคนิคซับลิเมชัน ก็อย่าลืมเตรียม กระดาษรองรีด กระดาษซับลิเมชัน และ หมึกซับลิเมชัน ให้พร้อม..

รวมเด็ด เทคนิคการจับคู่สี ที่ใช้ได้ตลอดกาล

เมื่อได้ทำความเข้าใจกับวงล้อสีแล้ว ต่อไปเป็นการทำความเข้าใจกับเทคนิคการจับคู่สี ซึ่งมีอยู่หลากหลายเทคนิค ซึ่งในแต่ละงานก็จะมีการเลือกใช้เทคนิคที่แตกต่างกัน โดยตัวอย่างเทคนิคที่ใช้กันอย่างแพร่หลายจะสามารถแบ่งได้เป็น

1. เทคนิคเลือกคู่สีตรงข้าม (Complementary color scheme)

เทคนิคการจับคู่สี แรกคือการเลือกสีที่อยู่ตรงข้ามกันในวงล้อสีเพื่อให้สีตัดกัน เช่น สีเขียวกับสีแดง หรือ สีน้ำเงินกับสีส้ม เป็นต้น ซึ่งสีประเภทดังกล่าวจะเป็นสีที่เมื่อตัดกันแล้วจะมีความโดดเด่นและสดใส

2. เทคนิคเลือกคู่สีที่ใกล้เคียงกัน (Analogous color scheme)

คือการเลือกคู่สีที่อยู่เฉดหรือโทนสีใกล้เคียงกันหรือติดกันในวงล้อสี เช่น สีฟ้า, สีเขียว และสีน้ำเงินอมเขียว เป็นต้น โดยวิธีเลือกคู่สีที่ใกล้เคียงกันมักใช้เพื่อให้สร้างความรู้สึกกลมกลืน สามัคคี 

3. เทคนิคเลือกคู่สีแบบสมดุล (Triadic color scheme)

คือการเลือกสีจากในวงล้อโดยให้เลือก 3 จุดตรงข้ามกัน (ตัดจุดกันให้เป็นสามเหลี่ยม) เช่น การเลือกสีแดง, เหลือง และน้ำเงิน เป็นต้น วิธีดังกล่าวจะสร้างความสมดุลกันอย่างลงตัว และถือเป็นอีกหนึ่งเทคนิคที่เมื่อใช้แล้วจะทำให้น่าดึงดูด

4. เทคนิคเลือกคู่สีแบบเดียว (Monochromatic color scheme)

คือการเลือกสีที่อยู่ในโทนเดียวกันนำมาผสมกัน โดยหลักการนี้มีคนเข้าใจผิดอยู่บ่อยครั้ง เนื่องจากชื่อของหลักการอาจจะทำให้สับสน โดยเสน่ห์ของการเลือกใช้โทนสีเดียวคือการเลือกสีเดียวกันแต่ปรับแต่ง Saturation เพื่อเพิ่มความมีชีวิตชีวา และทำให้งานออกมาดูหรูหรา

เทคนิคการจับคู่สี
Image by Freepik

แรวม Website ที่ช่วยในการออกแบบจับคู่สี

หากใครที่ไม่มีเวลาว่างพอหรืออาจต้องการตัวช่วยและทางลัดในการจับคู่สีให้เข้ากัน ตอนนี้ได้มีหลาย Website ที่ได้ทำการพัฒนาจนสร้างเครื่องมือที่ช่วยให้ทุคนสามารถเข้าไปใช้งาน ซึ่งเครื่องมือที่อยู่ในเว็บไซต์เหล่านี้จะช่วยจับคู่สีให้ตามที่ต้องการ มาดูกันว่า เทคนิคการจับคู่สี ของเว็บไหนมีความน่าสนใจบ้าง

Canva 

https://www.canva.com/colors/color-wheel/

ทุกคนคงจะรู้จัก Canva.com กันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว เนื่องจากเป็นเว็บไซต์ที่มีการใช้งานกันอย่างแพร่หลายและเป็นเว็บไซต์อันดับต้น ๆ เมื่อพูดถึงการตกแต่งรูปภาพ หรือ วีดีโอ ฯลฯ แต่ทุกคนอาจไม่เคยทราบมาก่อนว่า Canva มี Feature ที่สามารถจับคู่สีได้เช่นกัน โดยใน Feature นี้ก็จะให้เราเลือกว่า เราต้องการจับคู่สีไปตามหลักการใด เช่น หลักการแบบ Analogous scheme (หลักการเลือกคู่สีที่ใกล้เคียงกัน) เป็นต้น

โดยรวมถือเป็นเว็บไซต์ที่ใช้งานได้ง่ายและที่สำคัญคือฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ 

Paletton

https://paletton.com/

เป็นเว็บไซต์ที่สร้างคู่มือที่ทำให้ทุกคนสามารถเลือกจับคู่สีได้ตามใจชอบ ซึ่งสามารถเลือกได้ด้วยว่าต้องการให้สีจับคู่เป็นไปตามหลักการใด โดยมีหลักการให้เลือกหลายรูปแบบ เช่น หลักการแบบเลือกคู่สีที่ใกล้เคียงกัน (Analogous color scheme) หรือหลักการเลือกสีแบบสมดุล (Triadic color scheme) เป็นต้น และเมื่อได้เลือกสีที่ถูกใจแล้ว ก็สามารถนำโค้ดสีที่ขึ้นโชว์ไปใช้ในงานได้  

Coolers

https://coolors.co/

เป็นเว็บไซต์ที่ช่วยให้ทุกคนสามารถจับคู่สีได้อย่างมีสีสัน โดยสำหรับเว็บไซต์นี้จะสามารถเลือกได้ว่าต้องการสร้างหรือจับคู่สีขึ้นมาใหม่ด้วยตัวเอง แบบไม่ซ้ำใคร หรือถ้าหากใครที่ต้องการสีที่ทางเว็บไซต์จัดไว้ให้อยู่แล้ว ก็สามารถเลือกสรรได้ตามที่ต้องการ

เทคนิคการจับคู่สี
Image by senivpetro on Freepik

Key Takeaway

เทคนิคการจับคู่สี ถือว่ามีหลากหลายเป็นอย่างมาก โดยการเลือกใช้เทคนิคต่าง ๆ ก็ขึ้นอยู่กับประเภทของตัวผลิตภัณฑ์หรืองานบริการนั้น ๆ ว่าต้องการให้งานดีไซน์ดังกล่าวออกมาในรูปแบบใด ซึ่งหากคุณต้องการตัวช่วยในการทำงานหรือเลือกคู่สี ในยุคสมัยปัจจุบันที่มีความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสูง ทำให้มีหลากหลายเว็บไซต์ที่เข้ามาแข่งขันกันจนทำให้เกิดเว็บไซต์ที่สร้างคู่มือในการช่วยจับคู่สีตามตัวอย่างข้างต้น ซึ่งจะทำให้ช่วยแบ่งเบาภาระของผู้ออกแบบได้มาก

Cover Image : Image by Freepik

สาระทั่วไป
10/10/2022

รังสรรค์ “งานอาร์ต” ง่าย ๆ มือใหม่ก็ทำได้ด้วยแอปแต่งรูปในมือถือ

หลายเรื่องที่เราเคยแชร์กันไปผ่านบทความของเบสท์ซับเลเมชั่น ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการสร้างสรรค์งาน DIY ต่าง ๆ อาทิ กระเป๋า กรอบรูป เสื้อ และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่สิ่งที่เรายังไม่เคยพูดถึงเลยนั้นกลับเป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่แสนจะสำคัญของอุตสาหกรรมนี้ นั่นก็คือตัวซอฟต์แวร์ที่เราใช้ทำภาพก่อนนำมาปรินท์ลงบนวัสดุต่าง ๆ นั่นเอง หากให้นึกไว ๆ กราฟิกดีไซเนอร์ทั่วไปน่าจะใช้ Adobe Photoshop กับ Adobe Illustrator ในการทำ แต่วันนี้มีซอฟต์แวร์ แอปแต่งรูป ตัวนึงที่ถือว่าใช้งานง่ายมาก ๆ และได้รับความนิยมสูง เหมาะสำหรับมือใหม่อย่างยิ่ง ชื่อของซอฟต์แวร์นี้มีนามว่า “Canva”

Canva แอปแต่งรูป ใช้งานง่าย ครอบคลุมทุกระบบ

ต้องเกริ่นแบบนี้ก่อนว่าปัจจุบันนี้ทุกคนนั้นน่าจะมีมือถือกันเกือบทุกคน เรียกได้ว่าแทบจะเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายแล้ว ฉะนั้น หากคุณสนใจจะทำรูปเพื่อนำมาใช้กับงานซับลิเมชั่นโดยง่ายและไวที่สุด “แอปมือถือ” น่าจะเป็นสิ่งที่ใกล้ตัวให้คุณได้เริ่มต้นเรียนรู้ทดลองกันได้แบบทันที ข้อเท็จจริง คือ Canva นั้นเป็นซอฟต์แวร์ที่ใช้ได้เกือบทุกระบบปฏิบัติการ หากเป็น คอมพิวเตอร์ โน้ตบุค แลปท็อป ก็ได้ทั้งระบบ Windows และ Mac OS ยกเว้นแค่ Linux ซึ่งก็ไม่น่าจะมีคนใช้งานมากสักเท่าไหร่นัก

แอปแต่งรูป

ฟีเจอร์โดดเด่น

อย่างที่บอกว่าแคนวานั้นมีเป็นแอปพลิเคชั่นให้คุณใช้งานได้ง่าย ๆ บนมือถือ รองรับทั้ง Android และ iOS ถือเป็นหนึ่ง แอปแต่งรูป ที่ยอดเยี่ยมสำหรับการเริ่มต้นงานซับลิเมชั่นอย่างมาก

  • ออกแบบได้หลากหลาย
  • มีเทมเพลต
  • คลิปอาร์ต
  • มีโฟโต้สต็อกและรูปถ่ายให้เลือกใช้เยอะ
  • ฟรี

แต่ถ้าคุณต้องการเข้าถึงการปรับแต่งและองค์ประกอบต่าง ๆ ขั้นสูงกว่า แอปนี้ยังมีให้สมัครสมาชิกรายเดือนสำหรับอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นโปรเพื่อเข้าถึงไอเทมวัตถุดิบสำหรับการสร้างสรรค์รูปที่มากกว่าได้เช่นกัน

สำหรับงานซับลิเมชั่น ใช้แอป Canva เพียงพอมั้ย?

อย่างที่เกริ่นไปตั้งแต่ตอนต้นว่านี่เป็นแอปแต่งรูป ที่ดีสำหรับการเริ่มต้น แต่ถ้าคุณเป็นกราฟิกดีไซเนอร์มือโปรอาจจะไม่ได้ถูกใจมากนัก เพราะเจ้าแคนวาไม่มีเครื่องมือแอดวานซ์แบบใน Photoshop หรือใน Illus ยกตัวอย่างง่าย ๆ เช่น เลเยอร์ในแคนวานั้นมีเพื่อย้ายวัตถุต่าง ๆ เท่านั้น ไม่สามารถใช้ฟีเจอร์ยาก ๆ อย่างที่โปรแกรมค่าย Adobe นั้นทำได้

แอปแต่งรูป

นอกจากนี้การแก้ไขรูปภาพและกราฟิกเวกเตอร์นั้นก็เป็นแบบพื้นฐาน ไม่มีเครื่องมือแปรงหรือยางลบ อย่างไรก็ตามด้วยเครื่องมือพื้นฐานที่แคนวานั้นมี พวกฟิลเตอร์ เทมเพลต โฟโต้สต็อก รวมถึงการจัดองค์ประกอบอัตโนมัติต่าง ๆ ก็เพียงพอแล้วต่อการออกแบบรูปภาพเพื่องานซับลิเมชั่นสำหรับผู้เริ่มต้น

ชาวซับลิเมชั่น โหลดเลย คุ้ม !

แคนวา นั้นถือว่ามีเครื่องมือ องค์ประกอบการออกแบบ และภาพสต็อกมากกว่าแอปอื่น ๆ ที่อยู่ในตลาด และจากที่เคยได้ลองใช้รวมถึงรีวิวจากผู้ใช้งานจริงท่านอื่นต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่เป็นซอฟต์แวร์ที่คุ้มค่าหากจะอัพเกรดเป็นเวอร์ชั่นโปร และไม่ว่าจะใช่บนแพลตฟอร์มใด ทั้งคอมพิวเตอร์ โน้ตบุค หรือมือถือสมาร์ทโฟน นี่เป็นแอปที่มีอินเตอร์เฟซใช้งานง่ายมาก ๆ ช่วยให้กระบวนการรังสรรค์งานอาร์ตของคุณนั้นเป็นไปอย่างรวดเร็วส่งผลต่อการสร้างงานซับลิเมชั่นที่จะกลายเป็นเรื่องง่ายจบง่ายได้ทันทีภายในแอปพลิเคชั่นนี้เพียงแอปเดียว ว่าแล้วก็รีบไปโหลดแอป เตรียมกระดาษซับลิเมชั่น และหมึกซับลิเมชั่นให้พร้อม แล้วพร้อมรังสรรค์งานอาร์ตใหม่ ๆ กันได้เลย

สาระทั่วไป