08/10/2023

EP. 3 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

มาถึงตอนสุดท้ายของซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ ? วันนี้เราจะนำเสนอตอนที่ 3 กับเทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนอีกวิธีนึงนั่นคือ การสกรีนปริ้น (Screen Printing) ส่วนวิธีอื่น ๆ นอกจาก สกรีนปริ้น และยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน เราได้ลงบทความไว้แล้ว.. ใครพลาดไป กดเข้า link นี้ไปอ่านกันได้ EP.1 เทคนิคซับลิเมชั่น EP.2 เทคนิคดิจิตอลปริ้นท์

และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบ การ สกรีนปริ้น (Screen Printing) วิธีที่เรียกได้ว่ามีประสิทธิภาพและเป็นวิธีที่แม่นยำ ได้งานเนี๊ยบสุด ๆ วิธีนึง อ่านจบแล้วคุณอาจตกผลึกได้ว่าวิธีแบบไหนเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ และวิธีใน EP.3 นี้มีเทคนิควิธีและวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง รวมไปถึง ข้อดี- ข้อเสียของวิธีนี้ เอาล่ะ ไปเริ่มกันเลย..

การ สกรีนปริ้น คืออะไร (Screen Printing)

การพิมพ์แบบ สกรีนปริ้น (Screen Printing) เป็นเทคนิคการพิมพ์ที่ใช้เทคโนโลยีของการสกรีนในกระบวนการพิมพ์ เสื้อผ้า, ไม้กระดาน, หรือวัตถุศิลปะที่มีช่องว่างบางส่วนซึ่งผ่านบล๊อคสกรีนได้, โดยที่ช่องว่างนี้เป็นส่วนที่จะถูกพิมพ์ลายหรือภาพ กระบวนการนี้สามารถใช้กับหลายวัตถุและวัสดุเช่น เสื้อผ้า, กระดาน, กระดาษ, และอื่น ๆ

สกรีนปริ้น
Credit : https://www.freepik.com/free-photo/person-holding-brown-wooden-board_9898359.htm

ขั้นตอนวิธีการ

การพิมพ์หน้าจอประกอบด้วยขั้นตอนพื้นฐานดังนี้:

1. เตรียมลายหรือดีไซน์: ในขั้นตอนแรก คุณจะต้องสร้างหรือเตรียมลายหรือดีไซน์ที่คุณต้องการพิมพ์บนผ้าหรือวัตถุ ลายหรือดีไซน์นี้จะถูกถ่ายโอนไปยังสกรีนในขั้นตอนถัดไป

2. สร้างบล๊อคสกรีน: หลังจากมีลายหรือดีไซน์พร้อมแล้ว คุณจะต้องสร้างบล๊อคสกรีนที่ใช้ในกระบวนการพิมพ์ นี้เป็นกระบวนการสำคัญที่ต้องใช้เส้นใยหรือที่ตามพิมพ์ เครื่องจักร หรือแสตนเลสเซ็นสตีล (stencil) เพื่อเตรียมสกรีนสำหรับการพิมพ์

3. ตั้งค่าเครื่องพิมพ์: หลังจากมีหน้าจอพร้อมแล้ว คุณจะต้องตั้งค่าเครื่องพิมพ์หรือเครื่องจักรพิมพ์เพื่อให้ถูกต้องตามขนาดและลักษณะของลายหรือดีไซน์

4. การพิมพ์: ในขั้นตอนนี้ คุณจะทาหน้าจอบนผิววัตถุที่ต้องการพิมพ์ลายด้วยหมึก หมึกจะถูกกดผ่านหน้าจอลงบนวัตถุในส่วนที่มีช่องว่างตามลายหรือดีไซน์

5. การ Drying: หลังจากการพิมพ์เสร็จสิ้น คุณจะต้องแห้งลายหรือดีไซน์ด้วยความร้อนหรือลมอบบ้าน การแห้งจะทำให้หมึกยึดอยู่กับผ้าหรือวัตถุ

6. การตรวจสอบ: หลังจากการพิมพ์และการแห้ง คุณควรตรวจสอบผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของลายหรือดีไซน์และคุณภาพทั่วไป

การสกรีนปริ้นเป็นวิธีที่แม่นยำและสามารถใช้กับวัตถุหลายประเภท อย่างไรก็ตามการเตรียมบล๊อคสกรีนเป็นขั้นตอนที่สำคัญ และควรทำอย่างรอบคอบเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด การสกรีนปริ้นเป็นกระบวนการที่ให้ความคิดสร้างสรรค์และสามารถสร้างผลิตภัณฑ์พิมพ์ที่มีคุณภาพสูงได้ในลายหรือดีไซน์ตามที่คุณต้องการ

วิธีนี้ต้องเตรียม วัสดุ และ อุปกรณ์อะไรบ้าง

การสกรีนปริ้น เริ่มต้นด้วยการเตรียมวัสดุและอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อกระบวนการ นี่คือรายการวัสดุและอุปกรณ์ที่คุณต้องการ

วัสดุและอุปกรณ์หลัก

  1. บล๊อคสกรีน เป็นส่วนที่สำคัญที่สุดในการสกรีนปริ้น คุณต้องมีบล๊อคสกรีนที่มีเส้นใยหรือแสตนเลสเซ็นสตีล (stencil) ให้มีลายหรือดีไซน์ที่คุณต้องการพิมพ์
  2. ระบบเฟรมบล๊อคสกรีน: ระบบเฟรมบล๊อคสกรีนใช้สำหรับยึดหน้าจอในตำแหน่งที่เหมาะสมและคงทนตลอดกระบวนการ
  3. หมึก: หมึกสำหรับการสกรีนปริ้นต้องเลือกตามประเภทของวัตถุที่คุณจะพิมพ์บน มีหมึกน้ำ, หมึกพลาสติส, หมึกน้ำมัน, และหมึกยิปซีเป็นต้น โดยแต่ละประเภทมีคุณสมบัติและสีที่แตกต่างกัน.
  4. เครื่องพิมพ์บล๊อคสกรีน: เครื่องพิมพ์บล๊อคสกรีนมีหลากหลายรูปแบบ ต้องเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับลายหรือดีไซน์ของคุณและวัตถุที่คุณพิมพ์.
  5. มีดหรือใยสี : มีดหรือใยสีใช้สำหรับดึงหมึกผ่านบล๊อคสกรีนและลงบนวัตถุ คุณต้องเลือกขนาดและความยาวของมีดที่เหมาะกับงานของคุณ
สกรีนปริ้น
Image by Freepik

Key takeaways สรุปข้อดี ข้อเสีย

ข้อดีของการสกรีนปริ้น

  1. ความหลากหลายในวัสดุ: การสกรีนปริ้นสามารถทำได้บนหลายวัสดุ เช่น ผ้า, กระดาน, กระดาษ, พลาสติก, และอื่นๆ ทำให้มีความหลากหลายในการใช้งาน
  2. ความแม่นยำสูง: การสกรีนปริ้นให้ความแม่นยำสูง ลายหรือดีไซน์ออกมาตรงตามที่คาดหวัง
  3. ความคงทน: ลายหรือดีไซน์ที่พิมพ์ด้วยการสกรีนปริ้นมีความคงทนและคงอยู่นานในการใช้งานประจำ
  4. ความสามารถในการพิมพ์สีสัน: การสกรีนปริ้นสามารถพิมพ์ลายหรือดีไซน์ที่มีสีสันหลากหลายและรายละเอียดสูงได้
  5. การผลิตจำนวนมาก: การสกรีนปริ้นเหมาะสำหรับการผลิตจำนวนมากของผลิตภัณฑ์เช่น เสื้อผ้าหรือของพิมพ์โปรโมชั่น

ข้อเสียของการสกรีนปริ้น

  1. ความซับซ้อนในการเตรียมบล๊อคสกรีน: กระบวนการเตรียมซับซ้อนและต้องใช้เวลานานเมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการอื่น ๆ
  2. จำกัดในการพิมพ์รายละเอียดสูง: การสกรีนปริ้นไม่สามารถพิมพ์รายละเอียดสูงเท่ากับวิธีการอื่น เช่น การพิมพ์ดิจิทัล
  3. ค่าใช้จ่ายสูงกับการเปลี่ยนลายหรือดีไซน์: หากคุณต้องการเปลี่ยนลายหรือดีไซน์, ค่าใช้จ่ายในการสร้างบล๊อคสกรีนใหม่อาจมีความสูง.
  4. ไม่เหมาะสำหรับรายการที่มีจำนวนน้อย: การสกรีนปริ้นมักไม่คุ้มค่าสำหรับการผลิตจำนวนน้อยของผลิตภัณฑ์ เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเตรียมบล๊อคสกรีนสูง
  5. จำเป็นต้องมีความเชี่ยวชาญ: การสกรีนปริ้นต้องการความเชี่ยวชาญในการเตรียมบล๊อคสกรีน การพิมพ์ และการดูแลรักษาอุปกรณ์ ซึ่งอาจทำให้เป็นที่ยุ่งยากสำหรับผู้ที่ไม่มีประสบการณ์

การสกรีนปริ้นมีข้อดีมาก ๆ เรื่องความคงทนและความแม่นยำ แต่ก็มีความซับซ้อนและค่าใช้จ่ายสูงในการเตรียมบล๊อคสกรีน ดังนั้น ควรพิจารณาวัตถุประสงค์และข้อกำหนดของโปรเจ็กต์ของคุณเพื่อตัดสินใจว่าการสกรีนปริ้นเหมาะสมหรือไม่สำหรับคุณ

Credit Cover image : Image by rawpixel.com on Freepik

สาระทั่วไป
20/08/2023

EP. 2 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

ตอนที่ 2 ของ ซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ ? เราจะนำเสนอ 3 เทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนคือ ประกอบไปด้วย การสกรีนปริ้น (Screen Printing) การทำซับลิเมชั่น (Sublimation) และ offset และเทคนิค ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) สำหรับวันนี้ EP. 2 ถึงคิวที่เราจะมาต่อกันที่เทคนิคอื่น ๆ ที่เป็นทางเลือกอื่นที่น่าสนใจอย่าง ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) อย่าง DTF และ DTG สำหรับในกรณีที่ผลิตภัณฑ์ของคุณ อาจจะไม่ได้เหมาะกับเทคนิคซับลิเมชั่นที่เรานำเสนอไปแล้วใน ตอนที่ 1 หาดูได้เลยที่..

และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบ ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing) ที่ทันสมัย และเรียกได้ว่าตามเทรนด์ในยุคนี้ เพราะไม่ยุ่งยาก และยังได้งานคุณภาพ มีด้วยกันสองแบบที่นิยมในตอนนี้คือ DTF และ DTG ทั้งสองแบบหรือแบบไหนเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณ แต่ละแบบคืออะไร มีเทคนิควิธีและวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เช่น เครื่องพิมพ์ กระดาษรองรีด เครื่องรีดร้อน หรืออื่น ๆ รวมไปถึง ข้อดี- ข้อเสียของวิธีนี้ เอาล่ะ ไปเริ่มกันเลย..

การพิมพ์เสื้อยืดด้วยเทคโนโลยี DTF และ DTG: วิธีง่ายๆ สำหรับผู้สนใจ

ถ้าคุณเคยสงสัยเกี่ยวกับการพิมพ์ลายหรือดีไซน์สวยงามลงบนเสื้อยืด และอยากทราบว่าเทคโนโลยี DTF และ DTG นั้นคืออะไร พร้อมวิธีการใช้งาน คุณมาถูกที่แล้ว! เรามาเรียนรู้เกี่ยวกับทั้งสองเทคโนโลยีนี้กันเถอะ!

Digital Printing
Image by Freepik

ความหมายของ DTF Printing และ DTG Printing

DTF Printing (Direct-to-Film) หมายถึงกระบวนการพิมพ์ลายหรือดีไซน์โดยการนำหมึกพิมพ์พิเศษที่มีลักษณะเหมือนฟิล์มมาพ่นลงบนฟิล์มพิมพ์ แล้วนำฟิล์มนั้นมาแปะหรือเกาะลงบนผ้า เมื่อนำไปอบด้วยเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ หมึกพิมพ์จะถูกยับยั้งบนผ้าเสื้อ และเกาะอยู่ที่นั้น

DTG Printing (Direct-to-Garment) เป็นกระบวนการพิมพ์ที่ใช้เครื่องพิมพ์พิเศษที่สามารถพิมพ์ลายหรือดีไซน์ลงบนผ้าเสื้อโดยตรง คล้ายกับเครื่องพิมพ์เลเซอร์สี ทำให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงามและมีความละเอียดสูง

กระบวนการ DTF Printing

  1. เตรียมไฟล์ดีไซน์: ใช้โปรแกรมกราฟิกในการสร้างดีไซน์หรือลายที่ต้องการพิมพ์ แน่นอนว่าขนาดและความละเอียดของไฟล์ต้องเหมาะสมกับเสื้อที่คุณจะพิมพ์
  2. พิมพ์ลายบนฟิล์ม: ใช้เครื่องพิมพ์พิเศษพิมพ์ลายลงบนฟิล์มพิมพ์ ที่มีหมึกพิมพ์ที่เหมาะสม
  3. การทำความร้อนและการเกาะ: นำฟิล์มที่พิมพ์แล้วมาเกาะหรือแปะลงบนเสื้อ จากนั้นนำไปอบด้วยเครื่องอบที่ควบคุมอุณหภูมิและเวลา ทำให้หมึกพิมพ์เกาะที่ผ้าเสื้อ
  4. การเตรียมใช้งาน: เมื่อหมึกพิมพ์เกาะที่ผ้าเสื้อแล้ว คุณสามารถสวมใส่เสื้อได้ทันที

กระบวนการ DTG Printing

  1. เตรียมไฟล์ดีไซน์: เช่นเดียวกับ DTF Printing ใช้โปรแกรมกราฟิกในการสร้างดีไซน์หรือลายที่ต้องการพิมพ์
  2. พิมพ์ลายบนเสื้อ: ใช้เครื่องพิมพ์ DTG ในการพิมพ์ลายลงบนผ้าเสื้อโดยตรง มักมีเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลายหรือดีไซน์เกิดความคมชัดและสวยงาม
  3. การทำความร้อนและการแห้ง: นำผ้าเสื้อที่พิมพ์ลายเสร็จแล้วนำไปอบด้วยเครื่องอบเพื่อให้หมึกพิมพ์แห้งและยับยั้งอยู่ที่ผ้าเสื้อ
  4. การเตรียมใช้งาน: เมื่อผ้าเสื้อแห้งแล้ว คุณสามารถสวมใส่ได้ทันที

DTF vs DTG

ไม่ว่าจะเลือก DTF Printing หรือ DTG Printing ทั้งสองวิธีนี้เพื่อพิมพ์ลายหรือดีไซน์บนเสื้อยืด คุณจะได้ผลิตภัณฑ์ที่สวยงามและสมบูรณ์แบบตามที่คุณต้องการ อย่างไรก็ตาม ควรระมัดระวังและปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตหรือคู่มือการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Digital Printing
Image by usertrmk on Freepik

วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยี DTF:

  1. เครื่องพิมพ์ DTF: เครื่องพิมพ์ที่ออกแบบมาเพื่อใช้ในกระบวนการ DTF printing โดยสามารถรับมือกับหมึกและฟิล์มที่ใช้ในกระบวนการได้
  2. หมึก DTF: หมึก DTF คุณภาพสูงที่เข้ากันได้กับเครื่องพิมพ์ DTF ของคุณ เป็นหมึกที่ออกสู่ผ้าได้ในกระบวนการเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ
  3. ฟิล์ม DTF: ฟิล์ม DTF ที่เฉพาะเจาะจงมาใช้เป็นตัวพกพาหมึก หมึกจะถูกพิมพ์ลงบนฟิล์มและฟิล์มจะถูกแปะลงบนผ้าด้วยเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ
  4. สารก่อนพิมพ์ (Pre-Treatment Solution): สารก่อนพิมพ์ที่ใช้ทาลงผ้าก่อนการพิมพ์เพื่อเพิ่มความยึดเหนียวและความสดใสให้กับหมึก ช่วยให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้ดีมากขึ้น
  5. เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Heat Press Machine): เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิที่ใช้ในกระบวนการแปะฟิล์ม DTF ลงบนผ้า สร้างความร้อนและแรงดันเพื่อให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้เหมาะสม
  6. เทปกันรั้ว (Masking Tape): เทปกันรั้วที่ใช้เพื่อยึดฟิล์ม DTF ลงบนผ้าก่อนการอบ
  7. กระดาษปล่อย (Release Paper): กระดาษปล่อยที่วางไว้ระหว่างแผ่นรองความร้อนและฟิล์ม DTF เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกยึดกับแผ่นรองความร้อน
  8. แปรงหรือกันรอย (Brush or Roller): แปรงหรือกันรอยที่ใช้ทาสารก่อนพิมพ์ลงผ้าอย่างสม่ำเสมอ
  9. เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Curing Oven or Heat Press): หลังจากที่ฟิล์มถูกแปะลงบนผ้าแล้ว คุณอาจจะต้องใช้เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิเพื่อประสานและยึดหมึกลงบนผ้าให้แข็งแรง

วัสดุที่ต้องใช้สำหรับการพิมพ์ด้วยเทคโนโลยี DTG:

  1. เครื่องพิมพ์ DTG: เครื่องพิมพ์โดยตรงบนผ้าที่ออกแบบมาเพื่อพิมพ์ลงผ้า ควรเข้ากันได้กับประเภทผ้าที่คุณใช้
  2. หมึก DTG: หมึกพิมพ์เฉพาะสำหรับเทคโนโลยี DTG ออกแบบมาเพื่อยึดผ้าและให้สีสันสดใส
  3. สารก่อนพิมพ์ (Pretreatment Solution): เหมือนกับกระบวนการ DTF การทาสารก่อนพิมพ์ที่ใช้เพื่อเตรียมผ้าก่อนการพิมพ์ ช่วยให้หมึกยึดเนื้อผ้าได้ดีและสีสันสดใส
  4. เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Heat Press Machine): บางเครื่องพิมพ์ DTG อาจต้องใช้เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิเพื่อประสานหมึกให้แข็งแรงบนผ้าหลังจากการพิมพ์เพื่อให้หมึกยึดกับผ้าได้อย่างแน่นหนาและคงทนในระหว่างการซัก
  5. เครื่องควบคุมความชื้น (Humidifier): บางสภาพแวดล้อมอาจมีการควบคุมความชื้นเพื่อรักษาระดับความชื้นที่เหมาะสม ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มการดูดซึมหมึกเข้ากับผ้าได้
  6. แผ่นรองผ้า (Textile Platens): เป็นชิ้นส่วนแนบพิเศษสำหรับเครื่องพิมพ์ DTG ที่ช่วยยึดผ้าให้เหนือหน้าเครื่องพิมพ์ เพื่อให้ผ้าคงความราบและตึงเพื่อให้การพิมพ์เป็นไปอย่างแม่นยำ
  7. อุปกรณ์ทำความสะอาด: การทำความสะอาดและการบำรุงรักษาเครื่องพิมพ์ DTG เป็นสิ่งสำคัญ อาจจำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาด สว็อบ และผ้าไม่เป่าใช้
  8. เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิ (Curing Oven or Heat Press) (ตัวเลือก): ขึ้นอยู่กับชนิดของหมึกและผ้าที่ใช้ เครื่องอบหรือเครื่องอบควบคุมอุณหภูมิอาจจะต้องใช้หลังจากการพิมพ์เพื่อประสานหมึกให้แข็งแรงบนผ้า

โปรดจำไว้ว่าวัสดุที่คุณต้องใช้สามารถแตกต่างกันไปตามแบรนด์และโมเดลของเครื่องพิมพ์ที่คุณใช้ ปฏิบัติตามคำแนะนำของผู้ผลิตและคู่มือการใช้งานเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

Digital Printing
Image by vecstock on Freepik

สรุป Digital Printing ดีหรือไม่

การพิมพ์เสื้อยืดด้วยเทคโนโลยี DTF และ DTG คือวิธีที่น่าสนใจสำหรับผู้ที่ต้องการสร้างเสื้อยืดที่มีลายหรือดีไซน์ที่สวยงามและพิเศษ ทั้งสองเทคโนโลยีนี้มีขั้นตอนง่ายๆ ที่คุณสามารถทำได้ด้วยตัวเอง อย่างไรก็ตาม ควรศึกษาและทดลองกับวัตถุอย่างหลากหลายก่อนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณได้ผลิตภัณฑ์ที่ตรงตามความต้องการของคุณและมีคุณภาพสูงสุด อย่างสำคัญอย่าลืมเพลิดเพลินกับกระบวนการสร้างสรรค์และกลายเป็นนักออกแบบเสื้อยืดที่เก่งได้เอง!

Credit Cover Image : Image by rawpixel.com on Freepik

กระดาษรองรีด, สาระทั่วไป, เครื่องรีดร้อน
29/07/2023

EP. 1 เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? สกรีนปริ้น vs ซับลิเมชั่น vs ดิจิตอลปริ้นท์

ตอนที่ 1 ของ ซีรีส์บทความ เทคนิคไหนเหมาะกับ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ ? เราจะนำเสนอ 3 เทคนิคยอดนิยมที่มีคอมมูนิตี้เผยแพร่เทคนิคมากมายในแวดวงงานสกรีนคือ ประกอบไปด้วย การสกรีนปริ้น (Screen Printing) การทำซับลิเมชั่น (Sublimation) และ offset และเทคนิคสุดท้าย ดิจิตอลปริ้นท์ (Digital Printing)

และสำหรับ EP. 1 นี้เราจะมาเริ่มกันที่ เทคนิคที่เราชำนาญที่สุดคือ เทคนิคซับลิเมชั่น นั่นเอง ! และข้อมูลต่อไปนี้คุณจะได้รับรู้ถึงวิธีการสกรีนเสื้อแบบซับลิเมชั่น ประโยชน์ของเทคนิคนี้ เพื่อที่คุณจะได้พิจารณาว่าเหมาะสมกับแนวทางธุรกิจสกรีนเสื้อของคุณหรือไม่ มีวัสดุที่เกี่ยวข้องอะไรบ้าง เช่น กระดาษซับลิเมชั่น หมึกซับลิเมชั่น เป็นต้น ขาดไม่ได้คือข้อดี- ข้อเสียของเทคนิคซับลิเมชั่น เพื่อที่คุณจะได้เปรียบเทียบกับเทคนิคอื่น ๆ เพื่อประเมินความคุ้มทุน เอาล่ะ.. จะช้าอยู่ทำไม !

เทคนิคซับลิเมชั่น
Image by vecstock on Freepik

เริ่มทำความรู้จักกับวิธีการระเหิด (Sublimation Method) เป็นอย่างแรก

วิธีการซับลิเมชั่น (Sublimation) หรือที่เรียกกันว่า Sublimation printing เป็นวิธีการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าหรือวัตถุต่าง ๆ ที่ไม่มีขี้ผึ้ง ด้วยการใช้ความร้อนและความดันเพื่อให้หมึกหรือสารสีแปลงเป็นก๊าซโดยตรง ทำให้สามารถผสมผสานกับพื้นผิวของวัตถุได้อย่างดี และทำให้ภาพหรือลายที่ถูกพิมพ์อยู่เกาะอยู่ติดอยู่กับวัตถุนั้นๆ โดยที่ไม่ทำให้สีหรือลายตกค้างที่ผิวของวัตถุ

การทำ Sublimation (Methodology):

  1. การเตรียมวัตถุ: ในขั้นตอนแรกคือการเตรียมวัตถุที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถเป็นผ้า สิ่งทอ แก้ว กระดาษ หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับการรับสีแบบ Sublimation ให้พร้อมสำหรับกระบวนการต่อไป
  2. การออกแบบภาพ: ในขั้นตอนถัดมาคือการออกแบบภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันที่สามารถสร้างลายละเอียดได้ตามความต้องการ
  3. การพิมพ์ภาพ: เมื่อมีภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์เรียบร้อยแล้ว ก็นำมาใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation ที่มาพร้อมกับหมึก Sublimation หรือสี Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ตามความต้องการ
  4. กระบวนการ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนและความดันจะทำให้หมึก Sublimation หรือสีแปลงเป็นก๊าซ และเจือจางเข้ากับเนื้อผ้าหรือวัตถุที่เตรียมไว้ โดยการเกาะกลบเนื้อผ้าหรือวัตถุ นำภาพหรือลายเข้าไปก่อน
  5. การเย็บและเตรียมผลิตภัณฑ์: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะต้องเย็บและเตรียมให้พร้อมใช้งาน เช่น ผ้าอาบน้ำที่พิมพ์ลาย ก็จะต้องเย็บขอบให้เรียบร้อย

วิธีการ Sublimation (How-to):

  1. เลือกวัตถุ: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลาย ที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ Sublimation ได้ เช่น ผ้าอาบน้ำ แก้ว แผ่นโลหะ หรือซับใน ที่มีโครงสร้างพอดีกับการส่งออกความร้อนและกดอย่างเหมาะสม
  2. ออกแบบภาพ: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างภาพหรือลายที่ต้องการพิมพ์ ควรคำนึงถึงขนาดและความละเอียดของวัตถุที่จะพิมพ์ เพื่อให้ภาพที่ได้มีความคมชัด
  3. พิมพ์ภาพ: นำภาพที่ออกแบบไว้ไปใส่ในเครื่องพิมพ์ Sublimation และตั้งค่าการพิมพ์ให้เหมาะสม โดยควรทดสอบให้แน่ใจว่าเครื่องพิมพ์ Sublimation ได้รับความเรียบร้อยและใช้หมึก Sublimation หรือสี Sublimation ที่เหมาะสมสำหรับวัตถุที่คุณต้องการพิมพ์ นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบการตั้งค่าอื่นๆ เช่น อุณหภูมิ ระยะเวลา และความดันเพื่อให้ความสวยงามของภาพเป็นอย่างดี
  4. การทำ Sublimation: เมื่อเครื่องพิมพ์ทำงาน ความร้อนที่สร้างขึ้นจะทำให้หมึกหรือสี Sublimation แปลงเป็นก๊าซและซึมลงไปในเนื้อผ้าหรือวัตถุ ซึ่งส่วนมากจะเกิดขึ้นในเวลาอันสั้น การเพิ่มความดันจะช่วยให้กระบวนการนี้เป็นไปได้อย่างรวดเร็วและเสถียรภาพ
  5. ผลิตภัณฑ์ที่ได้: เมื่อกระบวนการ Sublimation เสร็จสิ้น คุณจะได้รับผลิตภัณฑ์ที่มีลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุ อย่างเช่น ผ้าอาบน้ำที่มีลายสวยงาม แก้วที่มีภาพสีสัน หรือกระดาษลายเก๋ๆ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้จะมีความสวยงามและทนทาน

ผลิดภัณฑ์ที่ได้จากเทคนิคนี้

การทำ Sublimation ส่วนใหญ่พบได้กับธุรกิจสกรีนเสื้อ แต่จริง ๆ สามารถใช้กับวัตถุหลากหลายชนิดที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ดังนี้:

  1. ผ้าอาบน้ำ: ผ้าอาบน้ำที่มีส่วนผสมของโพลีเอสเตอร์ และโพลีเอสเตอร์พันธุ์ธรรมชนิดใดก็ได้ (polyester) เป็นวัตถุที่นิยมใช้ในการทำ Sublimation printing เนื่องจากสามารถรับสี Sublimation และให้ความคมชัดของภาพได้ดี
  2. เสื้อผ้าและเนื้อผ้าสำเร็จรูป: เสื้อผ้าและเนื้อผ้าที่ทำจากผ้าโพลีเอสเตอร์หรือผ้าส่วนผสมที่มีความเหมาะสมกับ Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  3. แก้ว: แก้วที่มีผิวขาวและเนื้อที่ทำจากเซรามิกหรือแก้วที่เหมาะสำหรับ Sublimation สามารถใช้พิมพ์ลายหรือภาพบนพื้นผิวได้
  4. แผ่นโลหะ: แผ่นโลหะที่ไม่มีผิวขัดหรือเคลือบทางเคมีสามารถนำมาใช้สำหรับ Sublimation printing และพิมพ์ลายหรือภาพลงบนพื้นผิวได้
  5. กระดาษ: กระดาษที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับรับสี Sublimation สามารถนำมาใช้พิมพ์ลายหรือภาพได้
  6. โลหะของที่อื่นๆ: ที่แสดงอยู่ข้างต้นเป็นตัวอย่างของวัตถุที่สามารถใช้ Sublimation ได้ แต่ยังมีวัตถุอื่นๆ ที่เหมาะสมสำหรับการพิมพ์ด้วยวิธีนี้ เช่น กระเบื้องโลหะ และอื่นๆ

ต้องเตรียมวัสดุอะไรบ้างก่อนปฏิบัติการ

ก่อนที่คุณจะดำเนินการ ธุรกิจสกรีนเสื้อ ในกระบวนการซับลิเมชั่น นั้นจำเป็นต้องเตรียมวัตถุและอุปกรณ์ต่างๆ ดังนี้:

  1. วัตถุที่จะพิมพ์: เลือกวัตถุที่ต้องการพิมพ์ลายหรือภาพ ที่มีผิวที่เหมาะสมกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ผ้าอาบน้ำ, เสื้อผ้า, แก้ว, แผ่นโลหะ, กระดาษ, หรือวัตถุอื่นๆ ที่มีผิวที่ไม่มีขี้ผึ้งและสามารถรับสีซับลิเมชั่น ได้ดี
  2. ลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์: ใช้โปรแกรมกราฟิกหรือแม้แต่แอปพลิเคชันในสมาร์ทโฟน เพื่อสร้างลายหรือภาพที่ต้องการพิมพ์ลงบนวัตถุ เตรียมไฟล์ลายหรือภาพให้มีขนาดและความละเอียดที่เหมาะสมกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์
  3. เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น: ใช้เครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น ที่มีคุณภาพเพื่อให้ได้ผลิตภัณฑ์ที่มีความสวยงามและความคมชัดสูง
  4. หมึกซับลิเมชั่น: ใช้หมึกซับลิเมชั่น ที่เหมาะสมกับเครื่องพิมพ์และวัตถุที่จะพิมพ์ หมึกซับลิเมชั่น จะต้องมีคุณภาพที่ดีและสามารถซึมลงไปในวัตถุได้
  5. Heat Press Machine (เครื่องอบ): หลังจากที่พิมพ์ลายหรือภาพลงบนกระดาษซับลิเมชั่น แล้ว จำเป็นต้องใช้ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น ซึ่งอยู่บนกระดาษเข้าไปในวัตถุ โดยให้ความร้อนและความดันที่เหมาะสม อย่าลืมเอากระดาษรองรีดรองก่อนเสมอ
  6. กระดาษซับลิเมชั่น: ใช้กระดาษซับลิเมชั่น เพื่อพิมพ์ลายหรือภาพจากเครื่องพิมพ์ซับลิเมชั่น และนำไปใช้กับ Heat Press Machine เพื่อกดหมึกซับลิเมชั่น เข้ากับวัตถุ
  7. กรรไกรและสกรูไล่: ใช้กรรไกรในกระบวนการตัดกระดาษซับลิเมชั่น เพื่อให้ตรงกับขนาดของวัตถุที่จะพิมพ์ และใช้สกรูไล่ในกระบวนการควบคุมความร้อนและความดันของ Heat Press Machine
  8. ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือ: ใช้ผ้าทิชชู่หรือผ้าเช็ดมือเพื่อทำความสะอาดผิวของวัตถุ ก่อนที่จะใส่กระดาษซับลิเมชั่น และนำเข้า Heat Press Machine
  9. อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ: ควรมีอุปกรณ์ในการควบคุมอุณหภูมิของ Heat Press Machine เพื่อให้ได้อุณหภูมิที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการซับลิเมชั่น
  10. ตัวอย่าง (Test Sample): ควรมีวัตถุทดสอบเพื่อทดลองพิมพ์ลายหรือภาพแรกครั้ง โดยใช้กระดาษซับลิเมชั่น เป็นตัวอย่าง จะช่วยให้คุณตรวจสอบความถูกต้องของลายหรือภาพก่อนที่จะทำการพิมพ์บนวัตถุจริง
  11. เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลา (Thermometer and Timer): ควรใช้เครื่องควบคุมอุณหภูมิและเวลาเพื่อตรวจสอบและปรับอุณหภูมิและเวลาในกระบวนการ Sublimation ให้ตรงตามข้อมูลที่แนะนำของผู้ผลิตหรือสูตรทดสอบของคุณ
  12. แผ่นห่อหุ้ม (Teflon Sheet): ใช้แผ่นห่อหุ้ม (Teflon sheet) เพื่อป้องกันไม่ให้หมึกซับลิเมชั่น ซึมเข้าไปยับยั้งที่ผิวเครื่องพิมพ์และ Heat Press Machine
  13. บรรจุภัณฑ์: หลังจากที่กระบวนการซับลิเมชั่น เสร็จสิ้น ควรมีบรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมในการบรรจุผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายหรือการลอกค้าง
  14. แห้งในที่มีระบบระบายอากาศ (Well-ventilated Drying Area): หลังจากที่ผลิตภัณฑ์ได้รับการพิมพ์และหมึกหรือสี Sublimation ได้ถูกกดเข้ากับวัตถุ ควรมีพื้นที่ในการแห้งที่มีระบบระบายอากาศดี เพื่อให้ผลิตภัณฑ์แห้งและมีกลิ่นที่ไม่ค้างคา
  15. ความระมัดระวังและความปลอดภัย: ทำความเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรการความระมัดระวังและความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการซับลิเมชั่น เช่น ใช้แว่นตาป้องกันแสง, สวมเสื้อผ้าป้องกันความร้อน, และใช้เครื่องอบควบคุมอุณหภูมิอย่างถูกต้อง
หมึกซับลิเมชั่น
Image by Freepik

ข้อดีและข้อเสียของวิธีการ Sublimation (Sublimation Method)

ข้อดี:

  1. คุณภาพระดับสูง: กระบวนการ Sublimation สามารถให้คุณภาพภาพที่มีความละเอียดและความคมชัดสูง ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์อยู่เกาะกับวัตถุด้วยความคมชัดและสวยงามมากที่สุด
  2. ระบบสีที่นุ่มนวล: หมึกหรือสี Sublimation ที่ใช้ในกระบวนการนี้จะละลายและซึมลงในเนื้อผ้าหรือวัตถุอย่างเนียนนวล ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงของลักษณะเนื้อผ้า หรือวัตถุและไม่เกิดความหยาบคายหรือขี้ผึ้ง
  3. ลายสีทนทาน: ภาพหรือลายที่พิมพ์ด้วยวิธี Sublimation จะทนทานต่อการล้างของน้ำและแสงแดด ซึ่งทำให้เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในกิจกรรมกลางแจ้งหรือการใช้งานที่ต้องการความคงทนในระยะยาว
  4. สีที่ชัดเจนและสดใส: การพิมพ์ด้วย Sublimation ทำให้สีที่ได้มีความสว่างและสดใส ซึ่งทำให้ภาพหรือลายที่พิมพ์ดูน่าสนใจและเป็นมิตรต่อตา
  5. ความหลากหลาย: Sublimation printing สามารถพิมพ์ภาพหรือลายที่มีความซับซ้อนและรายละเอียดสูง ซึ่งช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์ที่พิมพ์ด้วยวิธีนี้

ข้อเสีย:

  1. ค่าใช้จ่ายสูง: กระบวนการ Sublimation มีค่าใช้จ่ายในการจัดซื้อเครื่องพิมพ์ Sublimation, หมึกหรือสี Sublimation, และวัตถุที่พิมพ์ ทำให้การดำเนินการนี้มีความให้เสียเปรียบกว่าวิธีการพิมพ์อื่นๆ
  2. จำกัดวัตถุที่ใช้พิมพ์: การทำ Sublimation จำกัดต้องใช้วัตถุที่มีผิวที่เหมาะสมสำหรับกระบวนการ ซึ่งอาจจำกัดความหลากหลายในการเลือกวัตถุที่พิมพ์
  3. ความซับซ้อนในกระบวนการ: กระบวนการ Sublimation มีขั้นตอนในการเตรียมวัตถุและควบคุมความร้อนและความดันในการพิมพ์ ซึ่งอาจต้องใช้ความชำนาญและความรอบคอบในการดำเนินการ
  4. จำกัดในการพิมพ์สี: หมึกหรือสี Sublimation มีความจำกัดในสีบางสีที่อาจไม่สามารถทำให้ได้เหมือนกับสีที่แท้จริง ซึ่งอาจมีผลต่อความสวยงามของภาพหรือลายที่พิมพ์
  5. เวลาในการดำเนินการ: การพิมพ์ด้วย Sublimation อาจใช้เวลานานกว่าวิธีการอื่นๆ เนื่องจากต้องรอให้หมึกหรือสี Sublimation ซึมลงไปในวัตถุในระหว่างกระบวนการ

Key Takeaways

เนื่องจากกระบวนการ Sublimation เป็นกระบวนการที่ใช้ความร้อนและความดัน หากคุณเลือกวิธีนี้ใน ธุรกิจสกรีนเสื้อ ของคุณ คุณจึงต้องระมัดระวังในการใช้งาน เพื่อป้องกันอาจเกิดอันตรายจากความร้อนที่เกิดขึ้น และควรให้ความสำคัญในเรื่องของความปลอดภัยในการใช้เครื่องพิมพ์และการจัดเก็บสี Sublimation เสมอ

กระบวนการ Sublimation เป็นวิธีการที่น่าสนุกและน่าสนใจในการพิมพ์ภาพหรือลายลงบนผ้าและวัตถุต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสินค้าที่ใช้เองหรือเป็นของขวัญ ซึ่งจะทำให้ผลิตภัณฑ์ดูน่าสวยงามและไม่เหมือนใคร ถ้าคุณต้องการลองทำ Sublimation กับวัตถุโดยตั้งใจในการศึกษาและปฏิบัติตามขั้นตอนที่ถูกต้อง ก็มั่นใจได้ว่าคุณจะสร้างสรรค์ผลงานที่น่าประทับใจมากมาย!

Credit Image : Image by vecstock on Freepik

Some of article came by : https://medium.com/@clashgraphicsga/benefits-screen-print-sublimation-offset-digital-d4ea5e57c956

สาระทั่วไป