18/01/2014

Do It by Yourself ด้วย กระดาษทรานเฟอร์

Bestsublimationthai.com ขอนำเสนอสาระดี ๆ เกี่ยวกับกระดาษทรานเฟอร์อีกเช่นเคยค่ะ สำหรับบทความนี้ยังคงมุ่งเน้นไปที่การทำลายสกรีนเสื้อยืด ด้วยตัวคุณเอง เพียงแค่มีพระเอกของเรา นั้นคือเจ้ากระดาษทรานเฟอร์นั้นเอง และเตรียมลวดลายที่สวยงามตามความต้องการของคุณเพียงเท่านั้น คุณก็จะมีเสื้อยืดหรือชุดใด ๆ ที่มีลวดลายเป็นของคุณเอง เท่ไม่เหมือนใครเลยละค่ะ วันนี้เรา จึงนำวีดีโอจากเว็บไซต์ Youtube ที่เจ้าของวีดีโอเค้าทำไว้ดีเเละเข้าใจง่ายมาก ๆ เป็น Step by Step สำหรับการนำกระดาษทรานเฟอร์มาใช้ในงานสกรีน ค่ะ

สำหรับวีดีโอแรกนี้ค่ะ จะเป็นการนำเอาลายที่ออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์และพิมพ์ลงบนกระดาษทรานเฟอร์ด้วยเครื่องปริ้นเตอร์แบบอิงค์เจ็ท มาสกรีนบนพื้นผิวผ้า สวยและง่ายมาก ๆ เลยล่ะคะ ซึ่งผู้อ่านก็สามารถทำตามได้ เพียงเเค่เตรียม

1) เตารีด

2) กระดาษทรานเฟอร์ 

3) ลวดลายของคุณที่สร้างจากโปรแกรมคอมพิวเตอร์

4) เครื่องปริ้นเตอร์อิงค์เจ็ท

5) กระดาษไข และ

6) กางเกงหรือเสื้อยืด

จากนั้น ในตอนสุดท้ายจะได้ออกมาเป็นกางเกงยีนส์ขาสั้นลายธงชาติ และเสื้อยืดลายไดโนเสาร์น่ารัก ๆ เเจ๋วมาก ๆ เราลองมาดูกันเลยค่าาา

Diy American Flag Shorts (Inkjet Transfer Paper)

How To Use T Shirt Transfer Paper Step By Step

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
15/01/2014

การสกรีนภาพด้วยกระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีเข้ม

การใช้กระดาษทรานเฟอร์สกรีนภาพลงบนพื้นผิวต่าง ๆ ซึ่งอาจหมายถึงผ้า หรือวัสดุต่าง ๆ ที่สามารถสกรีนได้นั้น ความสำคัญของวิธีการสกรีนภาพด้วยกระดาษทรานเฟอร์นี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของกระดาษ และสามารถใช้กับปริ้นเตอร์หมึกปกติ (Dye Ink) ทั่วไปที่ใช้พิมพ์กระดาษปกติ หรือหากใช้กับปริ้นเตอร์หมึกกันน้ำ (Durabrite Ink & Pigment Ink) ก็จะช่วย ให้หมึกติดบนกระดาษทรานเฟอร์นานยิ่งขึ้น เพราะหมึกดังกล่าวมีคุณสมบัติทนน้ำและแดด แต่อย่างไรก็ตามการใช้กระดาษทรานเฟอร์มีข้อจำกัดในเรื่องของความคมชัดของภาพหลังจากถูกสกรีนลงบนพื้นผิวเหล่านั้นเเล้ว ทั้งนี้อันเนื่องมาจากคุณสมบัติของหมึกที่ใช้ใน การพิมพ์นั้นมีความโปร่งแสง และเพื่อให้ภาพหรือสีที่พิมพ์ออกมามีความคมชัด จึงจำเป็นต้องพิมพ์ลงบนวัสดุที่มีสีขาว ซึ่งในทางกลับกันหากพิมพ์ภาพลงบนพื้นผิวที่มีสีเข้ม ตัวอย่างเช่น พิมพ์สีน้ำเงินเข้มลงบนผ้าสีเหลืองอ่อน สีน้ำเงินจะยังคงให้ สีที่ถูกต้องและคมชัดมากกว่าการพิมพ์หมึกสีน้ำเงินเข้มลงบนผ้าสีน้ำตาลหรือสีดำ เป็นต้น ดังนั้นการสกรีนภาพด้วยกระดาษทราน เฟอร์สำหรับผ้าสีเข้มนั้น จะมีลักษณะที่แตกต่างกับการการสกรีนภาพด้วยกระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีอ่อน คือ กระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีอ่อนจะมีพื้นหลังเป็นสีใส แต่กระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีเข้มจะมีพื้นหลังเป็นสีขาว ซึ่งจะ ช่วยให้เวลาติดลงบนผ้าสีเข้มแล้ว จะสามารถมองเห็นรายละเอียดของภาพได้

กระดาษทรานเฟอร์

สำหรับวิธีการการสกรีนภาพด้วยกระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีเข้มนั้น จะแตกต่างกับสีอ่อนเพียงเล็กน้อย นั้นคือ ลักษณะการใช้งานกระดาษทรานเฟอร์สีเข้มจะพิมพ์ภาพลงด้านเดียวกับต้นฉบับ ต่างกับกระดาษทรานเฟอร์สีอ่อน ที่ต้องพิมพ์แบบภาพในลักษณะกลับด้านในลักษณะสะท้อนกระจกเงา และหลังจากพิมพ์ภาพหรือลวดลายจากเครื่องพิมพ์ลงบน กระดาษแล้ว ก่อนนำไปเข้าเครื่องกดความร้อนจะต้องทำการลอกชั้นฟิลม์แผ่นบนที่ถูกพิมพ์เป็นลวดลายออกจากกระดาษรองแผ่นล่างเสียก่อน โดยชั้นฟิลม์แผ่นบนจะมีลักษณะคล้ายแผ่นยางบาง ๆ และขณะที่ลอกต้องระวังไม่ให้แผ่นยางขาดออก จากกัน จากนั้นเมื่อลอกออกแล้วให้นำไปเข้าเครื่องกดความร้อน โดยให้ลวดลายหงายขึ้นด้านบน และควรวางซ้อนแผ่นซิลิโคนทับอีกชั้นเพื่อป้องกันไม่ให้ชั้นฟิลมพ์ถูกหน้าสัมผัสของเครื่องกดความร้อนโดยตรง ซึ่งผลการสกรีนที่ได้ออกมาจะ ลักษณะเป็นผิวยางที่ค่อนข้างหนาและมีน้ำหนักกว่างานฮีตทรานเฟอร์บนผ้าสีอ่อน

ขอขอบคุณบทความบางส่วนจากเว็บไซต์

http://กระดาษทรานเฟอร์.com/article/กระดาษทรานเฟอร์สำหรับผ้าสีเข้ม, http://www.ink-spa.com/ink-spa/index.php?option=com_content&view=article&id=154&Itemid=131

และรูปสวย ๆ จาก http://blog.umamidesign.com/category/playing/page/2/

มา ณ ที่นี้ด้วยค่า

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
26/12/2013

การสกรีนเสื้อ การทำบล็อกสกรีน สำหรับงานซับลิเมชั่นและกระดาษทรานเฟอร์

วันนี้ BestSublimationThai.com ขอนำเสนอบทความที่น่าสนใจบทความหนึ่ง เกี่ยวกับการสกรีนเสื้อ การทำบล็อกสกรีน ซึ่งเป็นการนำกระดาษทรานเฟอร์มา ประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ สำหรับผู้อ่านที่สนใจอยากทำธุรกิจเสื้อยืด รับจ้างสกรีน หรืออยากทำเสื้อยืดสกรีนลายที่ออกแบบเองไว้ใส่คนเดียวก็สามารถทำได้ ซึ่งเป็นข้อมูลจากเว็บไซต์ http://board.postjung.com/635210.html ขอขอบคุณสำหรับสาระดี ๆ 🙂
1. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็น ต่อไปนี้

  • บล็อกสกรีนเสื้อเปล่า
  • ต้นแบบลาย อาจมาจากการออกแบบผ่านโปรแกรมคอมพิวเตอร์ หรือภาพวาดต่าง ๆ
  • สติ๊กเกอร์
  • Art Knife
  • ลูกกลิ้งยาง
  • กระดาษกาว
  • เทปหนังไก่
  • แผ่นรองตัด

2. เอาต้นแบบลายมาตัดเป็นสติ๊กเกอร์ จากนั้นเอาไปติดกับสติ๊กเกอร์ แล้วจึงตัดตามแบบ

3. เมื่อตัดเสร็จแล้วก็จะได้ สติ๊กเกอร์ออกมา 2 ส่วน คือส่วนที่เป็นลวดลาย (ส่วนที่ตัด) และส่วนที่เป็นกรอบ (ส่วนที่เหลือ)

4. นำส่วนที่เป็นกรอบมาติดลงบนบล็อกสกรีน

5. เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นต่อไปนี้

  • ที่ปาดสี ใช้กระดาษลังตัดแล้วกระกบซ้อนกัน 2 ชั้น (ยางปาดสีที่เค้าใช้ในงานสกรีนจริงๆ ไซส์ เท่ากับกระดาษลังตัวนี้ ราคาประมาณอยู่ที่ 500+)
  • สีสกรีน
  • น้ำยาผสมสี
  • ถ้วยผสมสีสกรีน

2. ขั้นตอนการสกรีน

  1. เตรียมที่ปาด (สีแดงในรูป) และบล็อกลายสกรีนที่เตรียมไว้แล้วให้พร้อม
  2. ผสมสีในชามผสมแล้วเตรียมการเกลี่ยสี (โดยใช้ที่ปาด)
  3. เกลี่ย สีลงในบล็อกให้สม่ำเสมอโดยสังเกตุจากการที่สีลงไปอยู่บนเนื้อผ้าสกรีนเต็ม ทุกส่วน (ขั้นตอนนี้เราจะยังไม่ยุ่งเกี่ยวกับเสื้อหรือวัตถุที่เราจะสกรีน)
  4. เมื่อ เราเกลี่ยสีได้สม่ำเสมอแล้ว ให้นำบล็อกลงไปวางทาบที่เสื้อหรือวัตถุที่เราจะสกรีน (ควรทำด้วยความระมัดระวัง เพราะสามารถวางได้ครั้งเดียว เนื่องจากสีที่เราปาดรอบแรกเพื่อเกลี่ยสีนั้น ส่วนหนึ่งได้ซึมผ่านบล็อกไปแล้ว)

3. ทำการปาดสี โดยปาดเข้าหาตัวและปาดไปในทิศทางเดียวกันซ้ำอีก 1-2 ครั้ง โดยไม่ต้องเพิ่มสีอีก
4. เอาไดร์เป่าผมเป่าลมร้อนที่ลายสกรีนประมาณ 5 นาที แล้วนำเสื้อไปผึ่งลมทิ้งไว้ จนกว่าสีจะแห้ง เป็นอันเสร็จ

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
23/12/2013

กระบวนการถ่ายโอนความร้อน (Iron-on transfers)

กระบวนการถ่ายโอนความร้อน (Iron-on transfers) หรือเรียกว่าการทำฮีตท์ทรานเฟอร์ (Heat Transfer) คือ การพิมพ์ภาพลงบนกระดาษทรานเฟอร์ ซึ่งโดยปกติแล้วในกระดาษทรานเฟอร์นั้น จะมีสารเคมีและแว๊กซ์ ที่สามารถดูดซับและถ่ายโอนภาพในการพิมพ์ลงไปบนพื้นผิวเสื้อโดยการใช้ความร้อน ซึ่งมักจะพบในการสกรีนเสื้อยืด การสกรีนหมายเลขผู้เล่นของชุดกีฬา เป็นต้น ซึ่งกระบวนการนี้หมึกจะไม่ได้ซึมผ่านเนื้อผ้า แต่เปรียบสเหมือนการนำสติ๊กเกอร์มาติดบนผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการหลุดลอก หรือรูปมีการแตกออกจากกัน ซึ่งแตกต่างกับการพิมพ์แบบซับลิเมชั่น การพิมพ์แบบซับลิเมชั่นจะใช้ความร้อน ในความดัน อุณหภูมิ ที่เหมาะสม เพื่อให้หมึกระเหิดไปติดอยู่ในเส้นใยของเสื้อผ้า ซึ่งทำให้ผลผลิตที่ได้มีคุณภาพ แต่ในแง่เชิงพาณิชย์ กระบวนการถ่ายโอนความร้อนยังเป็นวิธีที่นิยมในธุรกิจขนาดเล็ก เพราะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากกว่า และมีขั้นตอนการทำงานที่ง่าย อีกทั้งยังสามารถสร้างลวดลายได้ตามใจชอบ และสามารถทำได้บนผ้าฝ้ายแบบ 100% อีกด้วย
ปัจจุบันมีเครื่องถ่ายเอกสาร เครื่องพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท หรือเครื่องพิมพ์แบบเลเซอร์ เป็นจำนวนหลายแบรนด์ที่ได้รับการพัฒนาให้สามารถสนับสนุนงานในกระบวนการถ่ายโอนความร้อนได้ เช่น แอปเปิ้ล, HP, ซีร็อกซ์, แคนนอน เป็นต้น

ขอบคุณข้อมูลบางส่วนจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Iron-on

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
20/12/2013

กระดาษทรานเฟอร์คืออะไร?

กระดาษทรานเฟอร์

กระดาษทรานเฟอร์คืออะไร? กระดาษทรานเฟอร์ คือกระดาษประเภทหนึ่ง ที่ถูกนำมาใช้ในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และงานฝีมือต่าง ๆ ด้านการพิมพ์ภาพลงบนวัตถุใด ๆ เช่น การสกรีนเสื้อ การลอกลายลงบนพื้นผิววัสดุต่าง ๆ หรือที่เราพบเห็นทั่วไปตามท้องตลาดคือ การสกรีนลายเคสโทรศัพท์มือถือ โดยใช้ความร้อนเป็นสื่อกลางในกระบวนการทำงานการถ่ายโอนภาพลงบนผืนกระดาษ ผืนผ้าใบ หรือพื้นผิวใด ๆ ที่สามารถพิมพ์ได้ ซึ่งกระดาษทรานเฟอร์สามารถนำมาใช้เพื่อสร้างสรรค์งานพิมพ์เหล่านี้ได้ หรือเรียกงานพิมพ์ประเภทนี้ว่า iron-ons (iron-ons คืออะไร คลิก) และในปัจจุบันกระดาษทรานเฟอร์สำหรับใช้ในการสกรีนเสื้อมีอยู่หลายประเภท โดยสามารถแบ่งได้เป็น 3 ประเภทหลัก ๆ คือ

1. กระดาษทรานเฟอร์อิงค์เจ็ท
กระดาษทรานเฟอร์สำหรับเครื่องพิมพ์อิงค์เจ็ท ซึ่งจะไม่สามารถพิมพ์สีขาวได้ ดังนั้นสำหรับพื้นผิวที่มีสีขาว หากมีการถ่ายโอนความร้อนลงสู่พื้นผิวนั้นแล้วนั้น ภาพที่แสดงให้เห็นจะคล้ายกับการมองภาพผ่านกระจกเงา แต่สำหรับพื้นผิวที่มีสีเข้มจะทำงานตรงข้ามกัน

กระดาษทรานเฟอร์

2. กระดาษทรานเฟอร์ซับลิเมชั่น
สำหรับกระดาษทรานเฟอร์ซับลิเมชั่น ถูกนำมาใช้ในการย้อมผ้า จำพวกผ้าโพลีเอสเตอร์ โพลีคอตตอน ไมโครไฟเบอร์ ไนลอน เป็นต้น โดยกระบวนการพิมพ์นี้ สีหมึกจะแปลเปลี่ยนเป็นก๊าซ แต่จะไม่ผ่านขั้นตอนที่เป็นของเหลวไป ซึ่งกระบวนการนี้หมึกจะมีความคงทนและยึดเกราะสูง จึงสามารถนำมาใช้ในงานฝีมือ อาทิเช่น งานเซรามิก งานไม้ แก้ว หรือโลหะ เป็นต้น

3. กระดาษทรานเฟอร์เลเซอร์
กระดาษทรานเฟอร์สำหรับเครื่องพิมพ์เลเซอร์ กระบวนการทำงานจะคล้ายคลึงกับกระบวนการพิมพ์แบบอิงค์เจ็ท แต่เลเซอร์จะมีความคมชัด และรวดเร็วกว่า เพราะหลักการทำงานของเครื่องพิมพ์เลเซอร์คือการให้ความร้อน ในการหลอมละลายผงหมึก เพื่อฉาบลงไปบนกระดาษ แต่ก็ยังไม่เพียงพอที่จะยึดเกาะบนเนื้อผ้าได้ด้วยตัวมันเอง การยึดเกาะยังต้องอาศัยฟิลม์ (โพลิเมอร์) เป็นตัวช่วยเช่นเดียวกับกระดาษทรานเฟอร์อิงค์เจ็ท ดังนั้นกระดาษทรานเฟอร์แบบเลเซอร์จึงคงต้องมีชั้นฟิลมม์โพลิเมอร์เคลือบอยู่เช่นเดียวกัน

อ่านรายละเอียดของการพิมพ์กระดาษทรานเฟอร์ในแบบต่าง ๆ เพิ่มเติม คลิก

ขอบคุณข้อมูลจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Transfer_paper และ www.กระดาษทรานเฟอร์.com

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
25/11/2013

ความแตกต่างระหว่างการพิมพ์แบบซับลิเมชั่น และการพิมพ์แบบอื่นๆ

การพริ้นแบบซับลิเมชั่น VS การพิมพ์แบบไดเร็คดิจิตอล
การทำงานของไดเร็คดิจิตอล คือการพิมพ์วัสดุต่างโดยตรงจากเครื่องพิมพ์ ลงสู่วัสดุโดยตรง แต่การทำซับลิเมชั่นจะพิมพ์ลงบนกระดาษทรานเฟอร์และทำมารีดร้อนลงวัสดุอีกที ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบในการทำงานแล้วจะดูเหมือนว่า การทำแบบซับลิเมชั่นจะมีความยุ่งยาก ซับซ้อนมากกว่า แต่ในความจริงแล้วการพิมพ์ไดเร็คยังต้องทำการอบเคลือบหลังจากที่พิมพ์เสร็จ ซึ่งระบบนี้มีความสำคัญด้วย บางคนมีความเชื่อที่ว่าการพิมพ์ไดเร็คลงเสื้อเลย จะทำให้งานที่ออกมามีประสิทธิภาพดีกว่าการทำซับลิเมชั่น ในการพิมพ์แบบไดเร็คสามารถใช้หมึกทั่วไป หรือ หมึกพิเศษในการพิมพ์ได้ แต่ ผลที่ออกมาจะแตกต่างกัน ทั้งสี ความคมชัด และความติดทนนาน อีกทั้งการพิมพ์ไดเร็คยังมีขีดจำกัดในการพิมพ์วัสดุเนื่องจากการพิมพ์เราจะนำวัสดุเข้าไปพิมพ์โดยตรง อีกทั้งยังมีราคาสูงกว่าการทำซับลิเมชั่น และโอกาสที่งานออกมาจะเสียหายเกิดขึ้นได้มากกว่าการทำซับลิเมชั่น 

การพริ้นแบบซับลิเมชั่น VS การสกรีนแบบบล็อกสกรีน
หลายคนเข้าใจว่าการพิมพ์โดยระบบดิจิตอลมีต้นทุนต่อรูปสูงกว่าการทำสกรีนแบบบล็อกสกรีน แต่ในความจริงแล้วการคิดต้นทุนในการสกรีนแบบบล็อกสกรีน เราไม่คิดถึงต้นทุนเรื่องเทคนิคต่างๆที่เราใช้ในการผลิตบล็อกออกมา รวมถึงเวลาที่เราต้องสูญเสีย และค่าแรงที่เกิดขึ้นในขณะการผลิตบล็อค ซึ่งค่าใช้จ่ายนี้เริ่มขึ้นตั้งแต่เรายังไม่ทันได้สินค้าสักหนึ่งชิ้นเลย แต่การทำซับลิเมชั่นเป็นการพิมพ์งานโดยเฉพาะระบบดิจิตอล ซึ่งมีข้อได้เปรียบกว่า การทำสกรีนแบบบล็อกสกรีน ในหลายๆด้าน รวมถึงการปรับแต่งตามความต้องการของลูกค้า ทั้งในเรื่องสี ความคมชัด ความละเอียด ประหยัดเวลาในการทำงาน และค่าแรง จากแต่ก่อนการออกงาน หนึ่งชิ้น จะต้องมีระบบการทำงานหลายระบบ จะต้องลงสีในแต่ละครั้ง ต้องลงทั้งหมดกี่ครั้ง ต้องใช้ระยะเวลานานขนาดไหน ต้นทุนค่าแรงก็สูง ถึงจะได้สินค้า หนึ่งชิ้น แต่ในทางกลับกัน การพิมพ์งานด้วยระบบดิจิตอล สั่งงานโดยใช้ระบบคอมพิวเตอร์ เครื่องสามารถพริ้นได้ตลอดเวลา ในระยะงานที่สม่ำเสมอ ไม่จำเป็นต้องใช้คนงานลงไปทำในทุกๆชิ้นงาน คนงานเพียงหนึ่งคนสามารถคุมเครื่องพริ้น ได้มากกว่าหนึ่งเครื่อง ซึ่งช่วยลดต้นทุน และทำให้ท่านสามารถควบคุมต้นทุนได้ โดย ณ จุดหนึ่งราคาของการทำซับลิเมชั่น สามารถแข่งขันกับการทำสกรีนได้ในตลาด 

การพริ้นแบบซับลิเมชั่น VS การฮีตท์ทรานเฟอร์ (Heat Tranfer)
ในการเปรียบเทียบการทำงานของซับลิเมชั่น กับการฮีตท์ทรานเฟอร์ เปรียบสเหมือนการเปรียบเทียบระหว่าง การสัก กับ การติดรูปลอก ซึ่งการทำฮีตท์ทรานเฟอร์ คือ การพิมพ์ภาพลงบนกระดาษทรานเฟอร์ ซึ่งในกระดาษนั้น จะมีสารเคมี และ แว๊กซ์ ที่สามารถดูดซับและถ่ายโอนลงไปพื้นเสื้อได้โดยใช้ความร้อน โดยกระบวนการนี้หมึกจะไม่ได้ซึมผ่านเนื้อผ้า แต่เปรียบสเหมือนการนำสติ๊กเกอร์มาติดบนผิวหนัง เมื่อเวลาผ่านไปอาจมีการหลุดหลอก หรือรูปมีการแตกออกจากกัน ยิ่งมีการซัก รีด หรือผ่านแดดมากเท่าไร ความสามารถติดทนของสติ๊กเกอร์ก็หลุดได้เร็วมากขึ้นเท่านั้น ซึ่งแตกต่างกับการพิมพ์แบบซับลิเมชั่น การพิมพ์แบบซับลิเมชั่นจะใช้ความร้อน ในความดัน อุณหภูมิ ที่เหมาะสม เพื่อให้หมึกระเหิดไปติดอยู่ในเส้นใยของเสื้อผ้า เปรียบสเหมือนการสักลงบนผิวหนัง ถ้าเราใช้มือลูบ โดยหลับตา เราจะไม่มีทางทราบเลยว่าที่จุดนั้น มีการลงสีไว้ เพราะสีเอง ได้ระเหิดและลงไปติดอยู่ด้านในแล้ว เพราะฉะนั้นสีจะติด คงทน ไม่ว่าจะซัก หรือ รีดไปสักกี่ครั้ง

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น
22/01/2013

กระดาษทรานเฟอร์ กับ รอยสัก

จากบทความต่าง ๆ ที่ Bestsublimationthai.com นำเสนอไปที่ผ่านมา เพื่อน ๆ ผู้อ่านคงพอจะทราบกันดีเเล้วว่ากระดาษทรานเฟอร์มีข้อดีข้อเสียอย่างไร และสามารถนำไปใช้ทำอะไรได้บ้าง โดยเท่าที่ทราบกันงานหลัก ๆ ของเจ้ากระดาษทรานเฟอร์นั้น ก็คือนำไปใช้ประโยชน์ในการสกรีนเสื้อ การลอกลายลงบนหรือวัสดุพื้นผิวอื่น ๆ ที่รองรับ แต่ยังมีงานบางสิ่งที่กระดาษทรานเฟอร์พระเอกของเราสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ซึ่งนั่นก็คือ……..งานศิลปะด้าน Tattoo หรือเป็นการนำกระดาษทรานเฟอร์ไปใช้เพื่อทำสติ๊กเกอร์รอยสักนั่นเองค่ะ

สติกเกอร์รอยสัก หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าสติกเกอร์ Tattoo รูปลอกน้ำ เป็นสติกเกอร์ที่มีลวดลายสัญลักษณ์หรือรูปภาพต่าง ๆ ที่ถูกออกแบบไว้ และนำมาใช้ติดกับผิวหนังโดยตรง โดยการพิมพ์ภาพ จะต้องพิมพ์ภาพหรือลวดลายเหล่านั้น รวมถึงตัวหนังสือในลักษณะย้อนกลับ (Mirror-Image) บนกระดาษทรานเฟอร์ และเวลาที่ใช้จะต้องคว่ำลาย Tattoo ติดกับผิวหนัง จากนั้นชโลมน้ำให้ชุ่ม แล้วรอสักครู่เพื่อให้กาวของสติกเกอร์แยกตัวออกจากกระดาษทรานเฟอร์ จากนั้นจึงค่อย ๆ แกะส่วนที่เป็นกระดาษรองหลังออก เป่าสติกเกอร์ให้แห้ง เพียงเท่านี้คุณจะได้ภาพรอยสักที่สวยงาม

ขอขอบคุณเว็บไซต์ http://www.empress.co.th/new/products/Tattoo/content.htm และ Google.com สำหรับตัวอย่างภาพสติกเกอร์ Tattoo สวย ๆ ค่ะ
ในบทความนี้จะขอเกริ่นพอให้ท่านผู้อ่านทราบถึงประโยชน์อีกอย่างของกระดาษทรานเฟอร์กันเพียงเท่านี้ก่อนค่ะ และสำหรับในบทความต่อไป Bestsublimationthai.com จะขอนำเสนอวิธีการทำสติกเกอร์ Tattoo จากกระดาษทรานเฟอร์ด้วยตัวคุณเอง น่าสนใจมาก ๆ อย่าลืมติดตามนะคะ

กระดาษทรานเฟอร์ & กระดาษซับลิเมชั่น