24/07/2024

ทำความรู้จัก Luxury แบรนด์เนม งานอาร์ตตัวแม่ เจ้าของลายโมโนแกรมดอกไม้สี่แฉก ที่มี ลิซ่า เป็น House Ambassador

หากกล่าวถึง Luxury แบรนด์เนมแบรนด์นึงที่ครองใจคนทั้งโลกมาอย่างยาวนาน นอกจากคุณภาพและดีไซน์ของผลิตภัณฑ์ที่ยึดเหนี่ยวเหล่าสาวกผู้ภักดีมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ยังมีสิ่งๆ นึงที่ทำให้ทั้งโลกที่เป็น “ลูกค้า” หรือ “ยังไม่เคยเป็นลูกค้า” ของแบรนด์นี้มาก่อนต้องรู้สึกตราตรึงติดตาด้วยมนต์สเน่ห์ของโลโก้และลวดลาย “โมโนแกรมดอกไม้สี่แฉก” อันแสนจะหรูหรา อารัมภบทมาถึงตรงนี้ หลายคนคงเดาออกแล้วว่าเรากำลังพูดถึงแบรนด์ LV ใช่แล้ว.. คงไม่มีใครไม่รู้จัก “Louis Vuitton

ซึ่งยิ่งตอกย้ำให้แบรนด์ Louis Vuitton เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และทัชใจกับเด็กๆ เจเนอเรชันใหม่ โดยแบรนด์แต่งตั้ง ลิซ่า หรือที่เราคุ้นเคยกันมากกับการเรียกว่า ลิซ่า BLACKPINK ให้เป็น House Ambassador อย่างเป็นทางการ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2567 แม้ว่าเมื่อเดือนก่อนหน้าก็เพิ่งแต่งตัว กงยู ไปแล้วก็ตามที เพียงความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นนี้ หากมองในมุมมองของโมเดลธุรกิจแล้ว จึงน่าชื่นชมที่แบรน์มีวิสัยทัศน์ทันโลก และยังคงความนิยมอย่างอมตะนิรันด์มายาวนานถึงเกือบสองศตวรรษ และแน่นอนว่าไม่มีทีท่าจะแผ่ว ..อะไรที่ทำให้ LV เดินทางมาถึงเกือบสองร้อยปีได้จนถึงทุกวันนี้ คุณภาพสินค้า? ดีไซน์ของผลิตภัณฑ์? วิสัยทัศน์ของผู้บริหาร? หรือโลโก้โมโนแกรมสุดยูนีค? จริงๆ ก็ทั้งหมดนั่นแหละ วันนี้เราจะลองไปเจาะลึกทีละเรื่องกัน

Louis Vuitton

เต็มเปี่ยมไปด้วย ดีไซน์และคุณภาพ

แบรนด์ Louis Vuitton มีต้นกำเนิดจากกรุงปารีส โดยช่างทำกระเป๋าชาวฝรั่งเศส ประสบความสำเร็จจากการออกแบบกระเป๋าเดินทางที่มีน้ำหนักเบา ทนทาน และกันน้ำ ทำให้ทั้งดีไซน์และคุณภาพสินค้าของเขาได้รับความนิยมจากนักเดินทางที่มีฐานะร่ำรวย และกลายเป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ชื่อของแบรนด์ก็ตรงตามชื่อของช่างผู้ก่อตั้งเลย ไม่ซับซ้อน “หลุยส์ วิตตอง” นั่นเอง

สาขาแรกเปิดในกรุงลอนดอน ต่อมาเขาได้ขยายธุรกิจไปยังประเทศอื่นๆ ในยุโรป อเมริกา และเอเชีย เริ่มต้นจากธุรกิจครอบครัวที่ส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น บริหารกันจนแบรนด์กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ที่โด่งดังจากสินค้าหนัง กระเป๋าเดินทาง และเครื่องประดับ ที่มีคุณภาพสูง และดีไซน์ที่เหนือกาลเวลา ปัจจุบันเป็นเจ้าของโดย LVMH Moët Hennessy หนึ่งในกลุ่มบริษัทสินค้าหรูหราที่ใหญ่ที่สุดในโลก (ข้อมูลปี ค.ศ. 2024)

ขึ้นชื่อเรื่องคุณภาพสูง

เป็นที่รู้กันดีว่าสินค้าของแบรนด์นี้มีชื่อเสียงในเรื่องคุณภาพที่สูง โดยมีจุดเด่นดังต่อไปนี้:

  • วัสดุ : ใช้วัสดุคุณภาพสูงเท่านั้น เช่น หนังแท้ ผ้าใบ แคนวาส โลหะมีค่า อัญมณี ทุกชิ้นผ่านการคัดสรรอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้วัสดุที่ดีที่สุด
  • การออกแบบ : สินค้าออกแบบโดยดีไซเนอร์ชั้นนำ เน้นความคลาสสิก เหนือกาลเวลา ผสมผสานกับเทรนด์แฟชั่นปัจจุบัน ทำให้สินค้าดูทันสมัยและน่าดึงดูด
  • งานฝีมือ : สินค้าผลิตด้วยมือโดยช่างฝีมือที่มีประสบการณ์สูง ทุกชิ้นผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานสูงสุด
  • ความทนทาน : สินค้ามีชื่อเสียงในเรื่องความทนทาน ใช้งานได้ยาวนานหลายปี คุ้มค่ากับการลงทุน

Flagship Products !

  • กระเป๋า : ผลิตจากหนังแท้คุณภาพสูง ทนทาน ใช้งานได้หลายปี มีดีไซน์ที่หลากหลาย ทั้งแบบคลาสสิกและแบบทันสมัย
  • รองเท้า : ผลิตจากหนังแท้ หรือผ้า ดีไซน์สวยงาม ใส่สบาย ทนทาน
  • เครื่องประดับ : ผลิตจากวัสดุชั้นดี ดีไซน์สวยงาม เหมาะกับทุกโอกาส
  • น้ำหอม : ผลิตจากวัตถุดิบธรรมชาติ กลิ่นหอมหรูหรา ติดทนนาน

อย่างไรก็ตาม สินค้ามีราคาค่อนข้างแพง เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการสินค้าที่มีคุณภาพสูง ดีไซน์สวยงาม และทนทาน

โมโนแกรมดอกไม้สี่แฉก

“ทำไมโลโก้แบรนด์ Louis Vuitton ถึงจดจำง่าย ทำออกมาได้ดี และหรูหรา ?” คำถามนี้น่าสนใจและชวนติดตาม โลโก้เป็นสิ่งที่ใครๆ ก็ทำได้ และถึงแม้ว่าจะทำออกมาสวย แต่การทำให้คนทั้งโลกจดจำได้ง่าย.. กลับเป็นเรื่องตรงกันข้าม ไม่มีใครกล้าปฏิเสธหากจะบอกว่าคนที่เป็น “ลูกค้า” หรือ “ยังไม่เคยเป็นลูกค้า” ของแบรนด์นี้มาก่อน ต่างต้องรู้สึกตราตรึงติดตาด้วยมนต์สเน่ห์ของโลโก้ “LV” ผสมผสานกับลายโมโนแกรมดอกไม้สี่แฉก กลายเป็นหนึ่งในโลโก้แบรนด์ที่จดจำง่ายและโด่งดังที่สุดในโลก

แรงบันดาลใจ

โลโก้ LV ได้รับแรงบันดาลใจมาจากหลายแหล่ง ดังนี้

  • ลายคามอน (Kamon) ของญี่ปุ่น : ลวดลายนี้เป็นลายประจำตระกูลที่ใช้สืบทอดกันมาในญี่ปุ่น Georges Vuitton ลูกชายของผู้ก่อตั้งแบรนด์ นำลวดลายคามอนมาประยุกต์ใช้กับโลโก้ LV ในปี 1896 ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้
    • เพื่อป้องกันการลอกเลียนแบบ : ในยุคนั้น กระเป๋ามักถูกเลียนแบบลวดลายอยู่บ่อยครั้ง ลายคามอนมีเอกลักษณ์และยากต่อการลอกเลียนแบบ
    • สื่อถึงวัฒนธรรมตะวันออก : ลายคามอนได้รับความนิยมในยุโรปช่วงนั้น การนำลายคามอนมาใช้เป็นการแสดงถึงความทันสมัยและความมีรสนิยม
  • รูปปั้นนางอัปสร : บางคนเชื่อว่า Georges Vuitton ได้แรงบันดาลใจจากรูปปั้นนางอัปสรในนครวัด ประเทศกัมพูชา มาออกแบบโลโก้
  • ลายกระเบื้อง : บางคนเชื่อว่า Georges Vuitton ได้แรงบันดาลใจจากลายกระเบื้องในพระราชวังแวร์ซาย ประเทศฝรั่งเศส มาออกแบบโลโก้

เอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย

โลโก้แบรนด์ Louis Vuitton นั้นมีเอกลักษณ์และจดจำได้ง่าย ด้วยเหตุผลดังต่อไปนี้

  • การออกแบบที่เรียบง่าย : โลโก้ประกอบด้วยตัวอักษรย่อ “LV” และลายโมโนแกรมดอกไม้สี่แฉก การออกแบบที่เรียบง่ายนี้ช่วยให้จดจำได้ง่าย และดูดีบนผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภท
  • การผสมผสานตัวอักษรและลาย : การผสมผสานตัวอักษรย่อ “LV” เข้ากับลายโมโนแกรม ทำให้โลโก้ดูมีเอกลักษณ์และน่าสนใจ
  • การใช้สี : มักใช้สีน้ำตาลเข้ม สีนี้สื่อถึงความหรูหรา คลาสสิก และเหนือกาลเวลา
  • ความสมดุล : องค์ประกอบต่างๆ ในโลโก้ เช่น ตัวอักษร ลายโมโนแกรม และเส้นกรอบ จัดวางอย่างสมดุล ทำให้โลดูสบายตาและน่ามอง
  • ความคงทน : แทบจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลยตั้งแต่เปิดตัวครั้งแรก ความคงทนนี้ช่วยสร้างความคุ้นเคย และทำให้โลโก้ดูน่าเชื่อถือ

เสริมสร้างด้วยปัจจัยอื่น

นอกจากการออกแบบโลโก้ที่โดดเด่นแล้ว ยังได้รับการเสริมสร้างด้วยปัจจัยอื่นๆ ดังนี้

  • ชื่อเสียงแบรนด์ : ป็นหนึ่งในแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก ชื่อเสียงของแบรนด์ช่วยเพิ่มคุณค่าให้กับโลโก้
  • คุณภาพ : มีคุณภาพสูง ผลิตจากวัสดุชั้นดี การออกแบบที่ประณีต โลโก้บนสินค้าจึงเป็นตัวแทนของคุณภาพและความหรูหรา
  • การตลาด : ใช้กลยุทธ์การตลาดที่หลากหลาย เพื่อโปรโมทแบรนด์และโลโก้ ทำให้โลโก้เป็นที่รู้จักและจดจำไปทั่วโลก

ด้วยเหตุผลเหล่านี้ โลโก้ LV จึงกลายเป็นหนึ่งในโลโก้แบรนด์ที่โด่งดังและมีมูลค่ามากที่สุดในโลก โลโก้ของแบรนด์นั้น เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ ความหรูหรา งานฝีมือ และ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งยังคงความคลาสสิกและเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน

Tips: เตรียม หมึกซับลิเมชั่น เตรียม กระดาษซับลิเมชั่น และ กระดาษรองรีด สั่งปริ้นลายโมโนแกรม LV มาทำซับลิเมชั่นบนเสื้อคุณดูก็ได้ รับรองสวนน่าใส่มากๆ แต่อย่านำไปขายล่ะ เดี๋ยวติดลิขสิทธิ์ !

Louis Vuitton

โมเดลธุรกิจของ Louis Vuitton ในปัจจุบัน (ปี 2024)

มาดูโมเดลธุรกิจกันบ้าง ว่าอะไรที่ทำให้แบรนด์เล็กๆ ของช่างทำกระเป๋าคนนึง ที่ต่อยอดไปเป็นธุรกิจครอบครัว และสามารถส่งต่อกันรุ่นสู่รุ่น จนกระทั้งสามารถบริหารให้แบรนด์ Louis Vuitton ประสบความสำเร็จอย่างมากมายในฐานะแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก โมเดลธุรกิจของพวกเขาประกอบด้วยองค์ประกอบสำคัญดังต่อไปนี้:

สินค้า

  • ความหรูหรา : มุ่งเน้นไปที่การผลิตสินค้าหรูหรา โดยใช้วัสดุคุณภาพสูง การออกแบบที่ทันสมัย และงานฝีมือที่ประณีต สินค้าหลักๆ ของพวกเขา ได้แก่ กระเป๋า เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ น้ำหอม และนาฬิกา
  • ควบคุมคุณภาพ : มีชื่อเสียงในเรื่องการควบคุมคุณภาพที่เข้มงวด สินค้าทุกชิ้นผลิตขึ้นในโรงงานของตัวเอง ผ่านการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานสูงสุด
  • กลยุทธ์การไม่ลดราคา : ไม่เคยลดราคาสินค้า กลยุทธ์นี้ช่วยรักษาภาพลักษณ์แบรนด์และความพิเศษของสินค้า

การตลาด

  • ภาพลักษณ์ : สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่หรูหรา มีระดับ เหนือกาลเวลา และเข้าถึงได้ยาก
  • การโฆษณา : ใช้กลยุทธ์การโฆษณาที่หลากหลาย เช่น การโฆษณาทางสื่อสิ่งพิมพ์ สื่อออนไลน์ ป้ายโฆษณา และการสนับสนุนกิจกรรมต่างๆ
  • ดิจิทัล : ให้ความสำคัญกับช่องทางดิจิทัล มีเว็บไซต์และโซเชียลมีเดียที่แข็งแกร่ง นำเสนอประสบการณ์การช้อปปิ้งที่ราบรื่น และสร้างการมีส่วนร่วมกับลูกค้า
  • Influencer : มักจะร่วมมือกับ Influencer หลากหลายวงการ ทั้ง ดารา และบุคคลที่มีชื่อเสียง เพื่อโปรโมทสินค้าและแบรนด์

การจัดจำหน่าย

  • ร้านค้า : มีเครือข่ายร้านค้าหรูหราทั่วโลก ตั้งอยู่ในแหล่งช้อปปิ้งที่สำคัญ ตกแต่งร้านอย่างสวยงาม มอบประสบการณ์การช้อปปิ้งที่หรูหรา
  • การขายออนไลน์ : มีเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซที่ให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าออนไลน์ได้
  • ห้างสรรพสินค้า : ยังมีสินค้าวางจำหน่ายในห้างสรรพสินค้าชั้นนำบางแห่ง

กลยุทธ์อื่นๆ

  • การสร้างประสบการณ์ : มุ่งมั่นสร้างประสบการณ์ที่พิเศษให้กับลูกค้า เช่น การจัดแฟชั่นโชว์ กิจกรรมพิเศษ และบริการส่วนตัว
  • ความยั่งยืน : ให้ความสำคัญกับความยั่งยืน ใช้วัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และลดการก่อมลพิษ
  • การผสมผสาน : มักจะผสมผสานดีไซน์คลาสสิกกับเทรนด์แฟชั่นปัจจุบัน ทำให้สินค้าของพวกเขาทันสมัยและน่าดึงดูด

Key Takeaways

โมเดลธุรกิจที่แข็งแกร่งของแบรนด์ Louis Vuitton ช่วยให้แบรนด์ประสบความสำเร็จอย่างมาก กลายเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่มีค่าที่สุดในโลก และเป็นที่นิยมของลูกค้าทั่วโลก คีย์เวิร์ดสำคัญคือแบรนด์มุ่งเน้นไปที่คุณภาพสินค้า สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง มีกลยุทธ์การตลาดที่ชาญฉลาด และเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย รู้จักสร้างกระแส และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย ที่สำคัญที่สุดคือหนึ่งในเรือธงที่ดึงดูดลูกค้าได้ทุกเจเนอเรชัน ก็คือ โลโก้ลายโมโนแกรมอันเป็นเอกลักษณ์ของแบรนด์ที่เปรียบเสมือนสัญลักษณ์ของ ความหรูหรา งานฝีมือ และ ประวัติศาสตร์อันยาวนาน ซึ่งยังคงความคลาสสิกและเป็นที่นิยมจนถึงปัจจุบัน องค์ประกอบเหล่านี้ผสมผสานกันและช่วยทำให้แบรนด์แยกตัวออกจากคู่แข่ง และกลายเป็นหนึ่งในโลโก้แบรนด์ที่โด่งดังและประสบความสำเร็จอย่างมากมายในฐานะแบรนด์แฟชั่นชั้นนำระดับโลก มียอดขายหลายพันล้านดอลลาร์ต่อปี

Credit Images : https://th.louisvuitton.com/

สาระทั่วไป , , , , , , , , ,